วันที่ 20 มกราคม 2568 เมื่อเวลา 16.30 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถ.แจ้งวัฒนะ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วยนายณวัฒน์ อิสรไกรศีล พามิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2025 ทั้ง 77 จังหวัด เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ร้องขอให้ตามหาความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา”
นายปานเทพ และ นายณวัฒน์ ต้องการให้ดีเอสไอดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่เร็วได้ ในการสืบสวนคดีแตงโมตั้งแต่เริ่มต้น ขอไม่เกินสิ้นเดือนนี้ ม.ค.นี้ ขอให้ได้คำตอบว่าดีเอสไอจะมีแนวทางอย่างไร มิสแกรนด์ 77 จังหวัด เป็นเสมือนตัวแทนของผู้หญิงทุกจังหวัด เมื่อรู้สึกว่าผู้หญิงไม่ได้รับความยุติธรรม จึงมาทวงศักดิ์ศรีความเป็นลูกผู้หญิง จึงขอให้กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับปากทำคดีนี้ อย่างตรงไปตรงมา และขอให้ออกเลขคดีเพื่อสืบสวนใหม่ และเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับคดีแตงโมเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากพบข้อพิรุธ และเงื่อนงำการเสียชีวิตของแตงโม พร้อมเปิดรูปถ่ายสภาพศพแตงโม โดยอ้างว่าลักษณะของแตงโมเหมือนถูกมัดมือไพล่หลัง
นายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในขั้นตอนการรับคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอยู่ 3 ขั้นตอน ขั้นแรกคือรวบรวมข้อเท็จจริง เมื่อได้ข้อมูลประการหนึ่งประการใด ทั้งไปได้หรือไปไม่ได้ ก็เข้าสู่ขั้นตอนการสืบสวนคดี ก่อนจะพิจารณาว่าเข้ากระบวนการที่จะรับเลขคดีพิเศษ หรือเข้าข่ายเป็นคดีพิเศษหรือไม่ แต่คดีแตงโมตอนนี้ ยังอยู่ขั้นต้น คือระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง และการพิจารณาของดีเอสไอ
ซึ่งพันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รับปากว่า ภายใน 1 เดือน คาดว่าจะตรวจสอบพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จ ซึ่งทางกรมฯ เข้าใจจุดประสงค์ที่อยากให้ดำเนินการ เนื่องจากมีเหตุที่เคลือบแคลงสงสัย อยากให้ทำความจริงให้ปรากฏ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานด้วย การจะดำเนินการอะไรต้องพิจารณากฎหมายว่าเปิดช่องให้ทำอะไรได้บ้าง หากจะดำเนินการโดยไม่ตรวจสอบข้อกฎหมายดีเอสไอก็จะทำผิดกฎหมายเอง
หลังจบการแถลงข่าวพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมก็ได้เดินทางมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้พูดคุยกับผู้ร้องเรียน เปิดเผยว่าตามหลักแล้วจะต้องมีการพิจารณาในข้อกฎหมายเสียก่อน เบื้องต้นตนเองจะพูดคุยกับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าจะดำเนินการส่วนใดได้บ้าง ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายคดีพิเศษ