นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเกาะติดปัญหาแก๊ง คอลเซนเตอร์มาต่อเนื่อง บอกว่า พบปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ได้ทำลายการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย รวมทั้งสร้างผลกระทบต่อคนไทย โดยเฉพาะที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกเงินไปปี ๆ หนึ่งมีมูลค่าความเสียหาย 8 หมื่นล้านบาท แต่ตัวเลขจริงๆ น่าจะทะลุหนึ่งแสนล้านบาทไปแล้ว
ขณะที่แก๊งคอลเซนเตอร์ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านของไทย ทั้ง เมียนมา ลาว และกัมพูชา พบว่ามีฐานแก๊งคอลเซนเตอร์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากฝ่ายความมั่นคง พบฐานแก๊งคอลเซนเตอร์ในเมียนมา เพิ่ม 5 แห่ง คือ เดิมมี 35 แห่ง ปัจจุบันนี้มี 40 แห่ง ส่วนคิงส์โรมัน สปป.ลาว พบฐานแก๊งคอลเซนเตอร์ 5 แห่ง ถัดมาที่กัมพูชา พบฐานแก๊งคอลเซนเตอร์ อีก 30 แห่ง รวมแล้วตอนนี้มีแก๊งคอลเซนเตอร์รอบๆ ประเทศไทย ประมาณ 75 แห่ง
“อัจฉริยะ” ชี้เป้า “เครือข่ายคนไทย-อดีตคนมีสี” ช่วยแก๊งคอลเซ็นเตอร์
เรื่องนี้ นายอัฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้เผยข้อมูลเป็นจิ๊กซอว์ ให้เห็นภาพใหญ่กระบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ โดยเฉพาะกับข้อสงสัยที่ว่า “กลุ่มขบวนการนั้นนำพาคนข้ามจากไทยไปกัมพูชาและไปยังอาคารทั้ง 2 แห่งนี้ได้อย่างไร”
นายอัจฉริยะ เผยว่า จุดเริ่มต้นคือ มีเครือข่ายคนไทย อดีตตำรวจ อดีตทหารพราน คอยเก็บหัวคิวคนไทยที่จะข้ามไปกัมพูชา โดยจะทำหน้าที่เปิดซิมการ์ดมือถือ เปิดบัญชีธนาคาร และนำพาคนไทยลักลอบข้ามฝั่งไปกัมพูชาผ่านช่องทางธรรมชาติตามแนวชายแดน เพื่อลักลอบไปยังอาคารทั้งสองแห่งนี้เพื่อให้คนไทยที่เปิดบัญชีธนาคารแล้ว เข้าไปทำการสแกนใบหน้าเพื่อใช้ทำธุรกรรมเบิกถอนเงินที่หลอกเหยื่อมาได้ ซึ่งเครือข่ายกลุ่มนี้ว่าเป็น “คอกม้า”
ส่วนช่องทางธรรมชาติที่กลุ่มคนไทยที่เป็นเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ใช้ลักลอบข้ามแดนไปนั้น นายอัจฉริยะ บอกว่า มี 5 จุด ตามแนวชายแดนสระแก้ว คือ จุดเจ๊หมู , เจ๊มีน , ตาติ , ตาเกิด และจุดเจ๊ดาว ซึ่งในจุดที่ 5 จุดเจ๊ดาวนั้น ตำรวจภูธรภาค 2 เพิ่งนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมไปแล้วเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งช่องทางธรรมชาติที่แก๊งคอลเซนเตอร์ใช้ ก็เป็นช่องทางเดียวกับที่ “จ่าเอ็ม” มือปืนยิงอดีต สส.กัมพูชา ใช้หลบหนีไปกัมพูชา
ไทยรับกรรม! กระแส “ไทยไม่ปลอดภัย” จีนส่อยกเลิก ทริปตรุษจีน
จากกระแส “ชิงชิง” นักแสดงชาวจีนถูกลักพาตัว รวมถึงเหตุการณ์จีนปล้นจีน ที่เขตห้วยขวาง ทำให้เกิดกระแส “ไทยไม่ปลอดภัย” และตั้งคำถามการเดินทางมาไทย โดยสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว คาดว่า นักท่องเที่ยวจีน อาจลดลง 20% ช่วงตรุษจีน เนื่องจากความมั่นใจด้านความปลอดภัยที่ลดลงในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน หากดูค่าเฉลี่ยนักท่องเที่ยวจีน ช่วงตรุษจีนปีที่แล้ว อยู่ที่ 181,080 คนต่อสัปดาห์ หากลดลง 10-20% จะอยู่ที่ราว 145,000-163,000 คนต่อสัปดาห์ ซึ่งหายไป 36,216 คนต่อสัปดาห์ และปี 68 นี้ที่ไทยตั้งเป้ารองรับนักท่องเที่ยวจีนที่ 8 ล้านคน คงไปไม่ถึง
ดังนั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลต่อการท่องเที่ยว ซึ่งระยะยาวต้องเร่งแก้ไขต้องดูตั้งแต่การคัดกรองคนเข้าประเทศและให้ระวังการใช้คำ “จีนเทา” ด้วย
