วันที่ 6 มกราคม 2567 คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยสยาม นัดสื่อมวลชนแถลงข่าวเพื่อชี้แจงถึงกรณีที่มีบุคคลทำการแอบอ้างชื่อของมหาวิทยาลัยเปิดอบรมอาสาตำรวจบ้าน ให้กับกลุ่มบุคคลชาวจีน และมีการเรียกเก็บเงินคนละ 38,000 บาท โดย อาจารย์พรชัย มงคลวนิช อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยาม กล่าวว่า เรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ตั้งแต่วันที่ 3 ธันวาคม และขณะนี้ได้ส่งผลการตรวจสอบไปยัง กระทรวง อว. แล้ว ซึ่งทางมหาวิทยาลัยเคยดำเนินการกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับตำรวจและการช่วยเหลือสังคม ทั้งเรื่องเกี่ยวกับอาสาจราจร ตำรวจทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งไม่เคยมีปัญหา เพราะเป็นการทำที่เป็นไปตามขั้นตอน แต่ครั้งนี้ มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะมีการดำเนินการบางอย่างที่ไม่เป็นไปตามขั้นตอน
ส่วนผลการสอบสวนทางมหาวิทยาลัยขอชี้แจงว่า การอบรมหลักสูตรอาสาสมัครตำรวจบ้านที่ปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นโดยบุคคลภายนอกที่รู้จักฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องภายนอกในการจัดทำ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 โดยมี Dr.Li ZHANG (ลี่จัง) อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยสยาม เป็นผู้อำนวยความสะดวกในการจัดอบรม ให้แก่นักศึกษาจีนและบุคลากรของมหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการดังกล่าวไม่ได้เสนอขออนุมัติจากอธิการบดีมหาวิทยาลัยสยามแต่อย่างใด
อีกทั้ง จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง การจัดอบรมที่ปรากฏในสื่อออนไลน์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 ธันวาคม 2567 นั้น ในวันที่ 25 ธันวาคม มีการเปิดอบรมที่ห้องเรียนของมหาวิทยาลัยสยาม ซึ่งการเปิดอบรมดังกล่าวไม่ได้เสนอขออนุมัติใช้สถานที่จากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด ส่วนในวันที่ 26-27 ธันวาคม เป็นการอบรมนอกสถานที่ และการอบรมดังกล่าว ก็ไม่ได้เสนอขออนุมัติเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวจากมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด
ส่วน หนังสือขอความร่วมมือในการจัดทำโครงการดังกล่าวไปยังผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 3 เป็นหนังสือที่ร่างและจัดทำขึ้นมาจากบุคคลภายนอก แต่มีการลงนามโดย Dr.Li ZHANG ซึ่งเป็นการใช้ตำแหน่งที่ไม่ได้แต่งตั้งเป็นทางการตามคำสั่งของมหาวิทยาลัย และเป็นการลงนามไปโดยพละการ ไม่ได้เสนอขออนุมัติจากมหาวิทยาลัยก่อน
ส่วนการเก็บเงินค่าลงทะเบียนเข้าร่วมอบรม จำนวน 38,000 บาท ตามที่เป็นข่าว ทาง ลี่จัง ยืนยันว่านักศึกษาจีนและบุคลากรของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการอบรมทั้งหมด ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการลงทะเบียนแต่อย่างใด ประกอบกับคำยืนยันจากการสัมภาษณ์นักศึกษาจีน และบุคลากรประจำของมหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมการอบรมดังกล่าว
ส่วนการเก็บเงินค่าลงทะเบียนจากบุคคลภายนอกที่เข้าร่วมการอบรมดังกล่าวด้วยนั้น ลี่จัง แจ้งว่า ไม่ได้รับทราบมาก่อน เป็นการดำเนินการของบุคคลภายนอกไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย และเงินดังกล่าวก็ไม่ได้เข้ามาในระบบการเงินของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด อีกทั้งมหาวิทยาลัยไม่ได้มีการจ่ายเงินให้แก่วิทยากรและค่าใช้จ่ายต่างๆ ของกิจกรรม ที่จัดขึ้น
สำหรับการติดต่อประสานงานเกี่ยวกับกิจกรรมตามโครงการ ตลอดจนการมอบประกาศนียบัตร การเตรียมอุปกรณ์เพื่อแจกให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ เช่น หมวก เสื้อกั๊ก ป้ายคล้องคอ ทาง ลี่จัง แจ้งว่า บุคคลภายนอกเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด
อธิการบดี ยังบอกอีกว่า ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้เป็นผู้ดำเนินการโดยตรง และก็ไม่ถือว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย แต่ถึงอย่างไรทางมหาวิทยาลัยก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่กระทบกับความรู้สึกของประชาชน
สำหรับผลการประชุมของคณะกรรมการ จะมีบทลงโทษทางวินัยกับบุคคลของมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย อาจารย์ 1 (นายลีจาง)และ บุคลาการ 1 คน ซึ่งตอนนี้ส่งผลไปยัง กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม คาดว่าจะมีผลลงโทษภายใน 1-2 สัปดาห์ และเตรียมดำเนินคดีทางอาญา ในคดี แอบอ้างและใช้สัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยเราเองเรียนตามตรงว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษาของไทยดำเนินการโดยคนไทย เราเองค่อนข้างเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและในอนาคตก็จะต้องมีการลงโทษผู้ที่กระทำผิดผู้ที่เกี่ยวข้อง