วันที่ 26 ธันวาคม 2567 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีกล่าวปราศรัยในระหว่างการช่วยหาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ให้กับผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยว่า จะกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไป อีกทั้งชี้พิกัดข้อมูลว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ตึก 25 ชั้นที่ตั้งอยู่ในปอยเปต ประเทศกัมพูชา
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า เราเคยให้ พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) ประสานเข้าไปที่ประเทศกัมพูชาแล้ว ซึ่งแต่ละประเทศก็มีกฎหมายเป็นของตัวเอง สิ่งที่เราจะต้องปฏิบัติคือการเคารพกฎหมายของประเทศนั้นด้วย และเราก็มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกันไว้แล้ว
ส่วนที่มีผู้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ ก็จะรับข้อมูลตรงนี้ไป และตนได้สั่งว่าให้ตรวจสอบทุกข้อมูลที่มีคนให้ข้อมูลทั้งหมด และจะต้องประสานกับประเทศต้นทางว่าเรื่องนี้จริงเท็จหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของทางผู้บัญชาการตำรวจไซเบอร์ แต่ในการปฏิบัติก็จะต้องมีการประสานระหว่างประเทศ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายทักษิณให้ข้อมูลมาแบบนี้ หากไม่รีบดำเนินการกับกลุ่มดังกล่าวจะทำให้รู้ตัว และหลบหนีหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่า การเคลื่อนย้ายหรือขยับตัวเป็นเรื่องที่ไม่ยาก แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านมาตลอด ซึ่งในประเทศไทยเรามีกรอบของเรา ทั้งในเรื่องบัญชี คน และเงิน ซึ่งพยายามตรวจสอบในทุกมิติที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา และพยายามทำทุกอย่างเพื่อตัดเส้นเลือด วิธีการ ขั้นตอน และท่อน้ำเลี้ยงของขบวนการเหล่านี้ให้ได้ และตนเชื่อว่าในอนาคตสถิติจะลดลง
“กับต่างประเทศเรามีข้อมูลจริง แต่เราต้องประสานงาน ไม่ว่าจะเป็นท่านใดให้ข้อมูลเราพร้อมรับ และถือว่าเป็นประโยชน์กับเราทั้งหมดก็พยามจะทำอย่างเต็มที่” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว