วันที่ 18 ธันวาคม 2567 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางมาที่ สำนักงานอัยการภาค 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อมายื่นหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของ นางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ถึงอธิบดีอัยการภาค 1 เพื่อจะขอรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากคำพิพากษาของศาลอาญาพิสูจน์แล้วว่า คุณแตงโม ไม่ได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยครั้งนี้นายอัจฉริยะ ได้นำพยานบุคคลใหม่ 8 ปาก ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น ผู้เชี่ยวชาญการขับเรือ , นักประดาน้ำ , แพทย์สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยพยานหลักฐานอื่นๆ เช่น เอกสารหลักฐาน มาประกอบการพิจารณาด้วย
นายอัจฉริยะ บอกว่า การสืบพยานของตำรวจทั้ง 21 นาย รวมถึงการเก็บหลักฐานเป็นเส้นผม 3 เส้น ไม่น่าเชื่อถือ การแก้ไขเวลาในจีพีเอส รวมถึงการตัดต่อภาพถ่ายของ “กระติก” 1 รวมถึงมีคลิปหลักฐานถึง 12 คลิป ที่พิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุ
ส่วนกรณีที่ “แซนด์” 1 ในผู้ที่อยู่บนเรือ ได้เคยออกมาระบุว่า ตัวเองถูก “ทนายตั้ม” บอกให้รับความผิดไป ทั้งที่ตัวเองไม่ได้ผิดนั้น นายอัจฉริยะ บอกว่า เรื่องนี้ คุณแซนด์จะพูดอย่างไรก็ได้ เพราะบุคคลนี้ไม่น่าเชื่อถืออยู่แล้ว เพราะมีหมอมาเบิกความแล้ว จึงยืนยันว่า สิ่งที่คุณแซนด์พูดเป็นความเท็จ แต่ตนไม่ขอพูดว่า ทุกคนบนเรือผิด เพราะตนไม่ใช่ศาล แต่จากพยานวัตถุ และพยานหลักฐานทั้งหมด ในศาลอาญา มีการสืบพยานทั้ง 2 ฝ่าย และผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดที่ไม่ได้เกี่ยวข้องในสำนวนคดีหลัก จนสืบทราบได้ว่า คุณแตงโม ไม่ได้ตกเรือ มีการแก้ไขเวลาในจีพีเอส รวมทั้งที่บอกว่า ตำรวจที่ทำคดีทั้ง 21 นาย มีการเอื้อประโยชน์ให้คนบนเรือ ทุกอย่างได้ถูกศาลพิสูจน์มาแล้ว ดังนั้นการที่อัยการจะฟ้องเพียงข้อหาไม่มีใบขับขี่เรือกับผู้ต้องหา 2 คน ไม่มีการใส่เสื้อชูชีพ หรือมีการดื่มสุราบนเรือ ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเสียชีวิตของคุณแตงโตเลย
นายอัจฉริยะ ยอมรับว่า มีเวลาเหลืออีกไม่มาก หากศาลจังหวัดนนทบุรีมีการอ่านคำพิพากษาของคุณแซนด์ และพวก เราจะไม่มีสิทธิ์รื้อคดีแล้ว เพราะก่อนจะหรือคดีได้ต้องเป็นฝ่ายจำเลยไม่ใช่ฝ่ายโจทก์ ดังนั้นเมื่อยังไม่มีการอ่านคำพิพากษาของศาลจังหวัดนนทบุรีออกมาจึงเป็นอำนาจของอัยการสูงสุด ที่จะขอให้มีการแก้ไขคำฟ้อง เนื่องจากพบพยานหลักฐานใหม่ซึ่งสามารถทำได้ตามกฏหมาย
ส่วนทางด้านของ “ปอ-โรเบิร์ต” อัจฉริยะกล่าวว่า เราต้องยอมรับความจริงว่า ทำอะไรทั้ง 2 คน ไม่ได้แล้วเพราะศาลมีคำพิพากษาออกมาแล้วว่า เป็นข้อหาประมาท
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามจะรื้อคดีสำเร็จหรือไม่อยู่ที่อัยการสูงสุด ที่จะสืบหาความเป็นธรรมให้กับคุณแตงโมหรือไม่ ซึ่งหลักจากเสร็จภารกิจที่ สำนักงานอัยการภาค 1 จ.พระนครศรีอยุธยาแล้ว นายอัจฉริยะ ยังได้รับมอบอำนาจฟ้อง นายแพทย์ ณปภัช แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ ในฐานแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา ที่ ศาลจังหวัดนนทบุรี ต่อด้วยยื่นหลักฐานใหม่ขอให้อัยการจังหวัดนนทบุรี แก้ไขคำฟ้องในการรื้อคดีคุณแตงโมต่อศาลจังหวัดนนทบุรีด้วยเช่นกัน
รวมถึงวันพรุ่งนี้ (19 ธ.ค.) นายอัจฉริยะจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงกรรมาธิการกฎหมาย สภาผู้แทนราษฎร และยื่นหนังสือถึง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอให้มีการเร่งรัดให้รื้อคดีนี้ขึ้นมาอีกด้วย
