วันที่ 16 ธันวาคม 2567 “ลิลลี่ เหงียน” เดินทางมาให้ปากคำที่กองบังคับการปราบปราม ในคดีหลอกขายทอง “แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์” เป็นครั้งแรก พร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชน ก่อนเข้าพบตำรวจ ว่า ก่อนหน้านี้เธออยากจะเดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจนานแล้ว แต่มีผู้ใหญ่บอกว่า รอให้ทางตำรวจเป็นคนเรียกเองดีกว่า
พร้อมบอกว่า ตนเองไม่ได้รู้จักกับ แม่ตั๊ก เป็นการส่วนตัว แต่ได้รู้จักผ่านช่างแต่งหน้าคนหนึ่ง ที่แต่งหน้าให้ตนเองและแม่ตั๊ก โดยได้ไปไลฟ์สดกับแม่ตั๊กรวม 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชั่วโมง รวม 4 ชั่วโมง คือ วันที่ 16 กรกฎาคม และ 18 กรกฎาคม รวมเงินค่าจ้าง 150,000 บาท แต่หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่านช่างแต่งหน้า มาถึงตนประมาณ 120,000 บาท
ส่วนสินค้าที่ไลฟ์สดใน 2 ครั้ง ลิลลี่ เหงียน บอกว่า จะเป็นสินค้า ประเภทครีมกันแดด โกโก้ สบู่ และกาแฟ โดยมีสคริปให้เป็นรายละเอียดของสินค้า พร้อมให้เธอช่วยใส่ซองแดงแจกเงิน มีแบงค์ 100 , 500 และ 1,000 บาท ยืนยันว่า ไม่ได้ไลฟ์ขายทอง แต่มีช่วงที่ไม่ได้ไลฟ์ ตนเห็นทองตั้งอยู่ในบริเวณนั้น และได้สอบถาม แม่ตั๊กไปว่า ทองจริงหรือไม่ แจกจริงหรือไม่ซึ่งแม่ตั๊กก็บอกว่า แจกจริง ให้ทุกคน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า อยากไปเยี่ยมแม่ตั๊ก บ้างหรือไม่ ลิลลี่ เหงียน บอกว่า ส่วนตัวอยากไปเยี่ยม เพื่อให้กำลังใจ ในฐานะที่เคยจ้างงานเธอ และเชื่อว่า หากแม่ตั๊กออกมา จะไม่ทำอะไรแบบนี้อีก ส่วนโกรธแม่ตั๊กหรือไม่นั้น มันเป็นการน้อยใจมากกว่า เพราะก่อนจะมาไลฟ์กับแม่ตั๊ก ตนยกเลิกไปหลายงาน รวมมูลค่าหลายบาท แต่ต้องมารอไลฟ์ของแม่ตั๊กคนเดียว ยังบอกอีกว่า เท่าที่ได้สัมผัสและได้เจอแม่ตั๊ก 2 ครั้งจากการไปไลฟ์สด แม่ตั๊กดูแลตนเองดีมาก และคิดว่าแม่ตั๊กเป็นคนดี เพราะมีการแจกเงินช่วยเหลือคนอื่น
ส่วนที่เดินทางมาวันนี้ ลิลลี่ เหงียน บอกว่า ตนเองไม่ได้กังวลอะไรเกี่ยวกับคดี และตั้งใจมายืนยันความบริสุทธิ์ แต่สิ่งที่ตนกังวล คือ จากการติดตามข่าวว่าจะต้องนำเงินที่ได้ไปมาคืน เพราะเงินค่าจ้างที่ตนเองได้ไป นำไปใช้หมดแล้ว
