เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 ที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัลหัวหิน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีสัมมนาพรรคเพื่อไทย โดยเน้นย้ำความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายด้านเศรษฐกิจในอนาคต

นายทักษิณเปิดเผยว่า ทีมงานของนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เตือนว่า ไทยอาจถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการด้านภาษีเพื่อตอบโต้ เนื่องจากไทยได้เปรียบดุลการค้า เช่นเดียวกับการที่ไทยเพิ่งทำ FTA กับออสเตรเลีย ซึ่งส่งผลให้สินค้าประเภทนมเข้ามาโดยปลอดภาษี ขณะที่สินค้าจากสหรัฐฯ ต้องเสียภาษีสูงถึง 50%

ในส่วนของเศรษฐกิจโลก นายทักษิณชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของเงินดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ ซึ่งอาจมีบทบาทเพิ่มขึ้นในระบบเศรษฐกิจโลก โดยเขาเสนอว่า ไทยควรศึกษาและเตรียมตัวรับมือการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว รวมถึงแนวทางใช้ สเตเบิลคอยน์ เพื่อเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแทนการออกพันธบัตร

นายทักษิณยังกล่าวถึงเป้าหมายการเติบโต GDP ของไทยในปีหน้า โดยคาดว่าอาจอยู่ที่ 3.5% และเพิ่มเป็น 4% ในปี 2569 แต่เขาเตือนว่าไทยต้องเร่งผลักดัน GDP ให้โตถึง 5% เพื่อไม่ให้ด้อยกว่าประเทศในอาเซียน พร้อมชี้ว่าหนี้สาธารณะของไทยที่อยู่ระดับ 68% ใกล้แตะเพดาน 70% เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข

เขาเสนอ 2 แนวทางเพื่อลดหนี้สาธารณะ ได้แก่

1. การเพิ่มการเติบโตของ GDP
2. การลดการขาดดุลหรือจัดเก็บภาษีให้เพียงพอ

“พรรคเพื่อไทยเกิดมาพร้อมความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และเราพร้อมจะทำให้ไทยเดินหน้าได้อย่างมั่นคง” นายทักษิณกล่าว