วันที่ 9 ธันวาคม 2567 ที่ สน.บางเขนเช้านี้ พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล2 เปิดเผยหลังการประชุมคดี 7 ตำรวจทำร้ายร่างกายประชาชนขณะขับรถผ่านด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ บนถนนประเสริฐมนูกิจ เมื่อ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่าตำรวจรับแจ้งเหตุตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม เวลา 05.00 น. ซึ่งเหตุเกิด 1.40 น. พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำครอบครัวผู้บาดเจ็บ ประกอบสำนวนเรียบร้อย และพนักงานสอบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจาก กทม. พบจุดตั้งด่าน และตำรวจมีการติดตามไปจริงตามภาพข่าว และได้ประสานน้องสาวและพ่อผู้บาดเจ็บ ไปชี้จุดเกิดเหตุ พนักงานสอบสวนจึงได้เก็บวงจรปิดจุดดังกล่าวมาประกอบสำนวนด้วย จากการสอบสวนผู้บาดเจ็บก็ให้การสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
โดยพฤติการณ์ของผู้ต้องหามีการกระทำผิดจริง พนักงานสอบสวนจึงได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 7 คนมาแจ้งข้อกล่าวหา 2 ข้อหาแล้ว คือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย และร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ และจากการที่คณะกรรมการประชุมกัน และมีการปรึกษากับพนักงานอัยการ ว่าพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหายหรือไม่ จากการพิจารณาเข้าข่ายในมาตรา6 คือเป็นเจ้าพนักงานทำให้ผู้หนึ่งผู้ใดได้รับความเสียหาย หรือบาดเจ็บ จึงได้ทำหนังสือไปถึงพนักงานอัยการเพื่อมาร่วมทำการสอบสวนในประเด็นนี้ หากสอบสวนแล้วมีความผิดจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหารับทราบข้อกล่วหาเรียบร้อย แต่ให้การปฏิเสธ อ้างว่าปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายร่างกาย ซึ่งก็เป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้การดังกล่าว
โดยสำนวนคดีผู้ต้องหาทั้ง7 คน จะดำเนินการส่งสำนวนให้ ปปช. ภายใน 30 วัน ส่วน ปปช.จะดำเนินการในกรอบเวลาเท่าไหร่ ไม่อาจเร่งรัดได้ ซึ่ง ปปช.จะพิจารณาว่าจะดำเนินการเอง หรือจะส่งสำนวนกลับมาที่ตำรวจสอบสวน
ในส่วนผู้ขับขี่และหลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจพิจารณา ตรวจสอบเบื้องต้นสงสัยว่าจะมีแอลกอฮอล์ในร่างกาย ได้ให้ผู้ขับขี่ชิดซ้ายเข้าตรวจละเอียด แต่ไม่ยอมให้ตรวจจึงขับรถชนด่านหลบหนี ซึ่งมีความผิด 1.เมาสุราในการขับรถ 2.ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน 3 ทำให้เสียทรัพย์ ซึ่มีการออกหมายเรียกให้มาให้รับทราบข้อกล่าวหาในเวลาประมาณ 18.00 น.
ส่วนกล้องวิดีโอติดหน้าอกตำรวจ ได้ทำหนังสือแจ้งต้นสังกัด บก.จร.ให้ยืนยันตัวบุคคล และขอให้ส่งภาพจากวิดีโอมาประกอบสำนวนด้วย ซึ่งทาง บก.จร.รับทราบแล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวม คาดว่าจะเร่งรัดได้ภายในสัปดาห์นี้
ด้านการเยียวยาผู้เสียหาย จะมีในส่วนค่ารักษาพยาบาล ที่จะแจ้งสิทธิ์ผู้เสียหายว่าได้รับการเยียวยาจากภาครัฐ และจะมีการสอบปากคำเพิ่มเติม ว่าผู้เสียหายจะเรียกร้องค่าเสียหายทางแพ่งอย่างไร