สืบเนื่องจากกรณีนักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ของรถแห่โอปอมิวสิค อุดรธานี เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้นักร้องสาวเคยโพสต์เตือนเรื่องการนวดบิดคอ ที่ตนเองนั้นเคยเข้ารับการนวดมาจนส่งผลให้มีอาการชาซีกขวา-อ่อนแรง ต้องเข้ารักษาตัวนอนแอดมิดอยู่โรงพยาบาล
โดยเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ผิง ชญาดา ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเล่าประสบการณ์และเตือนเกี่ยวกับ “การนวดบิดคอ” โดยระบุว่า ได้ไปนวดที่ จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากมีอาการปวดไหล่ หลังจากนั้น 2 วัน เริ่มมีปวดท้ายทอย จึงคิดว่าเป็นอาการข้างเคียงปกติของการนวด ซึ่งมีการบิดคอด้วย โดยได้กินยาระงับอาการ แต่ผ่านไป 1 สัปดาห์ พบว่าเริ่มมีอาการชา จึงไปนวดกับหมอนวดคนเดิมและมีการนวดแบบบิดคออีกครั้ง
ผ่านไป 2 สัปดาห์ เริ่มปวดตึงมากจนนอนหงายและคว่ำไม่ได้ แต่ไม่ได้เอะใจเพราะคิดว่าเป็นผลข้างเคียง จึงไปนวดที่เดิมกับหมอนวดคนใหม่ ซึ่งนวดแรงและมีอาการบวมช้ำเป็นสัปดาห์ โดยได้กินยาเพื่อบรรเทาอาการมาตลอด แต่ต่อมาเริ่มมีอาการปวดเสียวคล้ายไฟช็อตที่ปลายนิ้ว และคันมาก รวมทั้งร้อนๆหนาวๆตลอดเวลา ก้มแล้วร้าวลงขา ซีกขวารู้ว่าตัวเองชาก็ตอนทาโคโลน หลังจากรอบที่ 3 ที่ไปนวด อาการเริ่มลามไปที่ท้อง ราวนม และชามากขึ้นเรื่อยๆ ต่อมา 2 สัปดาห์ แขนขวาเริ่มอ่อนแรงจนยกไม่ขึ้น โดยฝากไว้เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครที่ชอบนวด และมีความหวังว่าตนเองจะหาย เพราะทรมานมาก ซึ่งหลังจากที่เธอมีอาการดังกล่าวก็กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ก่อนจะเสียชีวิตในช่วงเช้าวันนี้ (8 ธ.ค. 67)
ล่าสุด ทพ.อาคม ประดิษฐ์สุวรรณ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวถึงกรณีการเสียชีวิตของนักร้องสาว “ผิง ชญาดา” เนื่องจากการไปนวดบิด ขณะนี้อยู่ระหว่างให้เจ้าหน้าที่ของกรมสบส. ตรวจสอบว่า ร้านนวดดังกล่าวมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ โดยปกติ ร้านนวดแพทย์แผนไทย อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมสบส. แต่ใช้กฎหมายของ พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ โดยในพื้นที่ต่างจังหวัด ต้องมีการขออนุญาตกับทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด
ทั้งนี้ สิ่งที่จะมีการตรวจสอบคือ การนวดที่เกิดขึ้นถูกต้องตามแบบแผนการนวดหรือไม่ เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมักมีการประยุกต์นวดในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐาน หรือการนวดทำให้ผู้รับบริการได้รับบาดเจ็บหรือไม่
