วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม พลตำรวจโทอัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคดีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม หลังจากเมื่อวานนี้ (26 พ.ย.) ได้จับกุม นางสาวปิณฑิรา หรือ ดาว พี่สาวภรรยาของทนายตั้มมาแล้ว จะมีการขยายผลจับกุมใครอีกหรือไม่ พลตำรวจโทอัคราเดช เปิดเผยว่า เป็นขั้นตอนการทำงานของทั้งฝ่ายสืบสวนและฝ่ายสอบสวน โดยต้องมีการตรวจสอบว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกหรือไม่ ซึ่งในส่วนนี้ทางฝ่ายสอบสวนก็มีการตรวจสอบและสอบสวนไปแล้ว เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมได้รายงานความคืบหน้ามาแล้วในบางส่วน แต่จะต้องมาพิจารณาอีกครั้งว่า เป็นประโยชน์หรือสามารถเป็นพยานหลักฐานได้ขนาดไหน ก่อนจะนำเข้าสำนวน
ส่วนการสอบปากคำ “ดาว” เมื่อคืนนี้ พลตำรวจโทอัคราเดช บอกว่า ยังให้ความร่วมมือน้อยมาก ส่วนจะเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีหรือไม่ ในส่วนของพยานหลักฐานทางเจ้าหน้าที่มีเพียงพออยู่แล้ว เพียงแต่เป็นการให้โอกาสผู้ต้องหาในการพิสูจน์ความถูก ความผิด
เมื่อถามว่า เมื่อ ”ดาว“ ไม่ให้ความร่วมมือ แนวทางการสืบสวนสอบสวน มิติสัมพันธ์ทางกฎหมายมีความเชื่อมโยงกับใครอีกหรือไม่ หลังจากได้เงิน 20 ล้านบาท พลตำรวจโทอัคราเดช บอกว่า เรามีการเชื่อมโยงอยู่แล้วถึงได้ออกหมายจับ ส่วนมีการเชื่อมโยงคนอื่นอีกหรือไม่ จะต้องดูว่า เราทำการสืบสวนสอบสวนแล้วมีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องอีก หากมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการต่อไป แต่เวลานี้ ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องออกหมายจับใคร
เมื่อถามถึง นายเล็ก คนขับรถของทนายตั้ม จะมีการแจ้งข้อหาหรือไม่ พลตำรวจโทอัคราเดชบอกว่า ขณะนี้ นายเล็กยังเป็นพยานอยู่ โดยจะดำเนินการไปตามขั้นตอนตามที่วางแผนการสอบสวนเอาไว้ ซึ่งในเบื้องต้นอยู่ในขั้นตอนที่สื่อมวลชนและประชาชนทราบกันอยู่แล้ว