วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ให้เป็นผู้ทำคดีฉ้อโกง “มาดามอ้อย” จตุพร อุบลเลิศ 71 ล้านบาท และคดีอื่น ๆ ว่าทนายสายหยุดจะขอถอนตัวออกจากการเป็นทนายความของนายษิทรา เนื่องจากขณะนี้รู้สึกตัวว่าตนเองถูกหลอก โดยเฉพาะจากพยานหลักฐานที่นายษิทรา ตระเตรียมไว้ให้ ล้วนเป็นพยานหลักฐานเท็จ เช่น สัญญาการว่าจ้างทำแอปพลิเคชันสลากออนไลน์ ที่เป็นเพียงฉบับร่าง มีการดัดแปลงแต่งเติมแก้ไขหลายครั้ง ก่อนที่จะส่งถึงมือตน นั่นหมายความว่านายษิทรา อาจพยายามปิดบังข้อเท็จจริง ทำให้ตน ไม่อาจรับทำหน้าที่ทนายความในคดีนี้ให้กับนายษิทราให้ต่อไปอีก
ด้านทนายสายหยุด บอกว่า วันพรุ่งนี้ เวลา 08.00 น.จะเดินทางเข้าไปตีเยี่ยมนายษิทรา ภายในเรือนจำเพื่อหารือในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดี แต่ที่ผ่านมาได้หารือกับทีมงานแล้วพบว่ามีข้อเท็จจริงหลายอย่างที่นายษิทราได้ให้ไว้เริ่มไม่ตรง จึงต้องเข้าไปหารือกับเจ้าตัวเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อให้ทราบว่าสิ่งใดจริงหรือไม่จริงกันแน่ จะต้องคุยให้ทราบถึงแนวทางการทำคดีของตน ถ้าจะให้ตนทำต่อ นายษิทราก็ต้องรับสารภาพและวางเงินคืนเขาในส่วนที่ผิด ส่วนที่มันไม่ผิดก็คือไม่ผิด ทั้งนี้ หากนายษิทรา ยอมรับสารภาพเพื่อเหตุบรรเทาโทษ ก็จะไม่รับทำคดี โดยพรุ่งนี้จะไปพูดคุยกับนายษิราให้เรียบร้อย ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณ แล้วค่อยออกมาพูดกับสาธารณชน
ทั้งนี้ ทนายสายหยุดบอกด้วยว่า ตอนนี้ รู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ เสียชื่อเสียง รับแรงกระแทกทุกวัน เรื่องใดเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็เสียหายไปหมด แล้วยิ่งไม่บอกความจริงก็ยิ่งเสียหาย