วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต นางสรารัตน์ รังสิตวุฒาภรณ์ หรือ แอม ในคดีวางยาไซยาไนด์ขณะที่ พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒฒาภรณ์ ถูกจำคุก 1 ปี 4 เดือน และ น.ส.ธัญนิชา เอกสุวรรณวัฒน์ จำคุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา พร้อมชดใช้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท
คดีนี้เริ่มต้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566 จากการหายตัวไปของ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี หลังออกไปปล่อยปลาที่ริมแม่น้ำแม่กลอง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยกล้องวงจรปิดบันทึกภาพครั้งสุดท้ายของ “ก้อย” ขณะอยู่กับ “แอม” ก่อนที่จะพบศพในเวลาต่อมา พบร่องรอยช้ำที่คาง ปลายนิ้วและเล็บเปลี่ยนเป็นสีดำ สอดคล้องกับการเสียชีวิตจากพิษไซยาไนด์
ทรัพย์สินของ “ก้อย” หายไปหลายรายการ ทั้งกระเป๋าหลุยส์ เงินสดราว 40,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และรถยนต์ส่วนตัว โดย “แอม” ปฏิเสธในตอนแรกว่าเป็นคนในกล้องวงจรปิด แต่ภายหลังยอมรับและอ้างว่าพา “ก้อย” ไปพบกิ๊ก
การสืบสวนพบความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของ พ.ต.ต.หญิงนิภา หรือ สารวัตรปู ที่เสียชีวิตที่วัดพระปฐมเจดีย์ จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 และยังพบผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันอีกหลายราย รวมถึง น.ส.กะณิกา ข้าราชการครูที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 หลังไปทำบุญกับ “แอม”
วันที่ 25 เมษายน 2566 ตำรวจจับกุม “แอม” ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” จากการสืบสวนพบว่า “แอม” มักเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับผู้เสียชีวิต โดยใช้ไซยาไนด์ผสมในอาหารเพื่อหวังลักทรัพย์
ระหว่างถูกคุมขัง วันที่ 23 มิถุนายน 2566 “แอม” ซึ่งตั้งครรภ์ได้ 26 สัปดาห์ มีภาวะแท้งลูกในเรือนจำ แพทย์ระบุสาเหตุจากภาวะครรภ์เป็นพิษ ก่อนส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจและทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ตามลำดับ
วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับ “แอม” ในทัณฑสถาน รวมกว่า 80 ข้อหา เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายทั้งเสียชีวิตและบาดเจ็บรวม 15 คน โดยเป็นข้อหาเดิมแต่ต่างกรรมต่างวาระ
วันที่ 17 กันยายน 2567 “แอม” ปฏิเสธการเบิกความต่อศาล ก่อนที่ศาลจะมีคำพิพากษาประหารชีวิตในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 นับเป็นคดีแรกที่ “แอม” ถูกตัดสิน โดยยังมีอีก 14 คดีที่พนักงานสอบสวนรวบรวมส่งให้อัยการดำเนินคดี ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2558 ถึงปี 2566
