คัดลอก URL แล้ว
ทนายรับมอบอำนาจ “บอสพอล” แจ้งความ “เจ๊พัช-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง

ทนายรับมอบอำนาจ “บอสพอล” แจ้งความ “เจ๊พัช-ฟิล์ม” พยายามฉ้อโกง

วันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าเยี่ยมบอสชาย ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ โดยนายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นต์มอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ นางสาวกฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ เจ๊พัช และ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หลังปรากฏคลิปเสียงรับเงิน 20 ล้านบาท ดิไอคอนกรุ๊ป และวันพรุ่งนี้ DSI จะเดินทางเจ้าสอบปากคำเพิ่มเติมในเรือนจำ ต่อจากพนักงานสอบสวนกลางที่สอบสวนไว้ คาดว่าจะเป็นเรื่องของพฤติการณ์คดีโดยละเอียด เช่น ใครแจ้งความใครไว้ ใครฉ้อโกงอย่างไร ทางดิไอคอนก็พร้อมให้สอบปากคำ

หลังจากได้หนังสือมอบอำนาจแล้ว ช่วงประมาณ 14.00 น.-15.00 น. วันนี้ จะเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามทันที ตอนนี้กำลังพิจารณาเรื่องการแจ้งข้อหา คาดว่าจะมี 2 ข้อหาคือข้อหาพยานามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา ทำให้เสียหาย และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย ว่าจะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัท โดยคดีนี้ดิไอคอนเป็นผู้เสียหาย เพราะบอสปันพูดคุยกับ กฤษอนงค์ในนามดิไอคอน โดยคดีหมิ่นประมาทของหนุ่มกรรชัยเป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน

ส่วนจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วสเข้าข่าย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่นั้น คงไม่เข้าข่าย เพราะไม่ได้นำข้อมูลลวคอมพิวเตอร์

ส่วนกรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าตะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งจ้อหา หมิ่นประมาณ ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ จากกรณีการแอบอ้างนั้น ก็แยกเป็นอีกเรื่อง แยกจากกรณีคลิปเสียง 20 ล้านบาท ซึ่งทางฝั่งดิไอคอน จะต้องเป็นพยานในคดีของ น.ส.จิราพร ด้วย

ส่วน น.ส. กฤษอนงค์อ้างว่าความผิดยังไม่สำเร็จ เพราะยังไม่ได้รับเงิน ก็เข้าข่ายพยานามกรรโชกทรัพย์อยู่ดี แม้การกระทำความผิดยังไม่บรรลุผล

นอกจากนี้ วันเสาร์ที่ผ่านมาตนเองได้แอบไปยื่นขอประกันตัวบอสวิน โดยนำหลักฐานเป็นใบรับรองแพทย์ไปยื่น เพราะมีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวระยะที่ 3 ตอนนี้อยู่ในแดน 1 โดยสภาพร่างกายของบอสวินมีเกล็ดเลือดต่ำ แต่ท้ายที่สุดศาลยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว โดยไม่ได้มีการไต่สวน เพราะ ให้เหตุผลว่ามีผู้เสียหายและมูลค่าความเสียหายเยอะ เกรงว่าจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานและเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และคัดค้านการประกันตัวจากผู้เสียหายและพนักงานสอบสวนจากกรณีนี้ในการประกันตัวบอสที่เหลืออยู่จึงมองว่าเป็นเรื่องยากและน่าจะต้องอยู่ครบทั้ง 7 ฝาก ซึ่งจะยื่นขอประกันตัวต่อไปหรือไม่นั้น ต้องรอความเห็นแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์อีกครั้งหนึ่ง และมีความคิดว่าจะนำตัวตัวไปคุมขังและรักษาที่โรงพยาบาลนอกเรือนจำ

ทนายความ ยังบอกด้วยว่า ตอนนี้บอสปันและบอสพอลทราบเรื่องที่เจ๊พัชเข้าไปในเรือนจำแล้ว แต่จะรู้สึกสะใจหรือไม่นั้น คงไม่ได้มีความสะใจ น่าจะเป็นความกังวลมากกว่า เพราะเข้าไปอยู่ต้องแยกนอน แต่จะต้องทำกิจกรรมด้วยกัน คิดว่าคงไม่อยากเจอกัน และเหม็นขี้หน้า

ส่วนผู้เสียหายที่เป็นตัวแทนจำหน่ายของดิไอคอน ที่เข้าร้องตำรวจสอบสวนกลาง ให้ พ.ต.ท.ราเชน แสงหมี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.1 บก.ปคบ. ให้ปลดอายัดบัญชี ตนเองจะแจ้งตัวแทนให้ไปร้องที่ DSI แทน ซึ่งผู้ที่ถูกอายัดบัญชีไม่ได้มีเพียง 40 คนแต่มีทั่วประเทศ ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะหลายคนมีภาระใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ควรมีการอายัดหวานแหลักษณะนี้

ส่วนที่มีการอ้างว่ามีคลิปบอสปันกราบเท้ากฤษอนงค์ ตนถามเลขาฯ บอสปัน ยืนยันว่าไม่มีการกราบ และดิไอคอนไม่ได้กังวลว่าจะมีคลิปเด็ดอะไรหรือไม่ เพราะว่าฝั่งเราก็มีคลิปเด็ดพอสมควร และเป็นหลักฐานที่ไม่ได้เปิดเผย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง