สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความเคลื่อนไหวล่าสุดจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ที่เตรียมระงับการดำเนินคดีอาญาต่อโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา ตามหลักการที่ว่าผู้นำที่ดำรงตำแหน่งจะได้รับความคุ้มครองจากการถูกฟ้องร้อง
ทั้งนี้ แจ็ก สมิธ ที่ปรึกษาพิเศษผู้รับผิดชอบคดี กำลังหารือกับผู้บริหารกระทรวงยุติธรรมเพื่อหาแนวทางยุติการดำเนินคดีสำคัญ 2 คดี ได้แก่ คดีพยายามล้มผลเลือกตั้งปี 2020 และคดีครอบครองเอกสารลับที่รีสอร์ทมาร์อะลาโก รัฐฟลอริดา
นอกจากนี้ คดีที่ศาลนิวยอร์กตัดสินว่าทรัมป์มีความผิด 34 กระทงในข้อหาปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ เกี่ยวกับการจ่ายเงินปิดปาก 130,000 ดอลลาร์ให้สตอร์มี แดเนียลส์ ก่อนการเลือกตั้งปี 2016 มีแนวโน้มว่าจะถูกเลื่อนการพิจารณาออกไปจนกว่าทรัมป์จะพ้นจากตำแหน่งในปี 2029
ส่วนคดีในรัฐจอร์เจียที่เกี่ยวกับการพยายามแทรกแซงผลเลือกตั้งปี 2020 ก็มีแนวโน้มว่าจะไม่มีผลกระทบทางกฎหมายต่อทรัมป์ตลอดวาระ 4 ปีของการดำรงตำแหน่ง เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมองว่า การลงโทษใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการกักบริเวณ การบำเพ็ญประโยชน์ หรือการคุมประพฤติ อาจเป็นการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ของประธานาธิบดี
อย่างไรก็ตาม การระงับคดีเหล่านี้เป็นเพียงการชะลอ ไม่ใช่การยกเลิกข้อกล่าวหา ซึ่งอาจถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่เมื่อทรัมป์พ้นจากตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นความพยายามของระบบกฎหมายสหรัฐฯ ในการรักษาสมดุลระหว่างหลักนิติธรรมและการปกป้องสถาบันประธานาธิบดี