สหรัฐอเมริกากำลังเข้าสู่โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2024 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ โดยเป็นการแข่งขันระหว่างนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน
การแข่งขันครั้งนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ถอนตัวจากการลงสมัครรับเลือกตั้งเมื่อเดือนกรกฎาคม และให้การรับรองนางแฮร์ริส รองประธานาธิบดีของเขา ทำให้ผู้แทนพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงให้กับแฮร์ริสในการประชุมใหญ่พรรค
ทั้งสองฝ่ายต่างนำเสนอนโยบายเศรษฐกิจที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยนางแฮร์ริสเน้นการขยายเครดิตภาษีบุตรและการปราบปรามการขึ้นราคาสินค้าโดยมิชอบ พร้อมผลักดันให้บริษัทขนาดใหญ่จ่ายภาษีในอัตราที่สูงขึ้น ขณะที่นายทรัมป์วางแผนลดภาษีนิติบุคคลและเรียกเก็บภาษีนำเข้า 10% จากสินค้าต่างประเทศทั้งหมด
ด้านนโยบายแรงงาน นางแฮร์ริสสนับสนุนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้สหภาพแรงงาน ส่วนนายทรัมป์เน้นการลดกฎระเบียบและวางแผนดำเนินการเนรเทศแรงงานต่างด้าวครั้งใหญ่
สำหรับนโยบายที่อยู่อาศัย นางแฮร์ริสเสนอให้ความช่วยเหลือผู้ซื้อบ้านครั้งแรกด้วยเงินดาวน์ 25,000 ดอลลาร์ ขณะที่นายทรัมป์มุ่งลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยผ่านการควบคุมเงินเฟ้อ
ผลการเลือกตั้งจะตัดสินด้วยคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 538 คน โดยผู้ชนะต้องได้คะแนนอย่างน้อย 270 เสียง ซึ่งไม่จำเป็นต้องชนะคะแนนนิยมจากประชาชนทั่วประเทศ เมื่อได้ผู้ชนะ จะมีพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568 ที่อาคารรัฐสภาสหรัฐ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.