พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณี The Icon นั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอจะรับเป็นคดีพิเศษ หรือไม่ ว่า ขณะนี้ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน แต่ยังไม่ได้กระทำความผิด ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงิน หรือแชร์ลูกโซ่ ซึ่งจะมีความแตกต่างกัน ที่หวังเอาผู้สมัครสมาชิกมาเอาเงิน สินค้ามีบ้างหรือไม่มีบ้าง แต่ในคดีฉ้อโกงประชาชน เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจ แต่ถ้าหากเป็นคดีแชร์ลูกโซ่ก็จะมีเกณฑ์
ทั้งนี้ ต้องขอชื่นชมตำรวจ ที่ทำคดีได้เร็ว พร้อมเป็นห่วงเรื่องการสอบสวน ซึ่งสามารถที่จะนำมาเป็นคดีพิเศษได้ แต่ขอให้ตำรวจได้ทำงาน เพราทราบว่าขณะนี้ ใช้พนักงานสืบสวนในการทำคดีนี้กว่า 50 นาย ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพพอ แต่ ในคดีลักษณะนี้เราจะเอาทรัพย์สินมาคืนให้ผู้เสียหาย โดยทางดีเอสไอได้สั่งการให้ ดูเกี่ยวกับเรื่องการฟอกเงินอยู่แล้ว หากจำนวนเงินเกินกว่า 800 ล้านบาท จะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และถ้าหากหลักฐานเป็นประโยชน์ก็จะส่งให้เป็นคดีพิเศษ เช่น การเอาอัยการมาร่วมสอบสวน ซึ่งจะเข้าถึงข้อมูลได้ แต่ขณะนี้เราต้องการช่วยเหลือประชาชน ในการดำเนินการทางแพ่ง โดยฟ้องคดีเป็นกลุ่ม หรือคดีคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อติดตามทรัพย์สินมาคืนผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตาม ได้มอบให้ทางดีเอสไอเป็นผู้ติดตามทรัพย์สินมาคืนให้กับผู้เสียหาย โดยเบื้องต้นทราบว่า ทรัพย์สินอยู่ในถาวรวัตถุ ซึ่งอาจจะขอคืนเงินได้ มากกว่า 700 ล้านบาท แต่ในรายละเอียดต้องสอบถามทางตำรวจ
ส่วนที่ผู้เสียหายมีความกังวลว่า ผู้เกี่ยวข้องกับบริษัทมีทั้งอัยการและตำรวจ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุดในทุกคดี ความเชื่อมั่นของประชาชนคือคนทำงานต้องไม่อคติ อคติเพราะความชอบ อคติเพราะความผูกพัน ซึ่งยืนยันว่ารัฐบาลนี้พยายามยกระดับไม่อคติกับทุกเรื่อง เราจะให้พยานหลักฐานเป็นผู้พูด