คัดลอก URL แล้ว
ปรากฏการณ์ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ส่องสว่างเหนือฟ้าเมืองไทย

ปรากฏการณ์ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ส่องสว่างเหนือฟ้าเมืองไทย

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (NARIT) ได้เผยแพร่ภาพถ่ายของดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส (C/2023 A3 Tsuchinshan-ATLAS) ที่ได้บันทึกไว้เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา นับเป็นช่วงเวลาที่มันโคจรใกล้โลกที่สุด ภาพอันงดงามนี้ถูกบันทึกในช่วงหัวค่ำ ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ แสดงให้เห็นดาวหางที่ปรากฏทางทิศตะวันตกของท้องฟ้า พร้อมด้วยหางสว่างที่ทอดยาวเหนือทัศนียภาพอันงดงามของจังหวัดเชียงใหม่ ภาพนี้ไม่เพียงแต่เป็นหลักฐานทางดาราศาสตร์ที่สำคัญ แต่ยังเป็นภาพที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนหันมาสนใจปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์มากขึ้น

ดาวหางดวงนี้เริ่มปรากฏให้เห็นในช่วงหัวค่ำตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยสามารถสังเกตเห็นได้ทางทิศตะวันตกทันทีที่ท้องฟ้ามืดสนิท อยู่บริเวณทางขวาของดาวศุกร์ซึ่งเป็นดาวที่สว่างที่สุดในช่วงเวลานี้ วันที่ 13 ตุลาคม 2567 นับเป็นวันพิเศษ เนื่องจากเป็นวันที่ดาวหางโคจรเข้าใกล้โลกที่สุด ด้วยระยะห่างเพียงประมาณ 70.6 ล้านกิโลเมตร ทำให้ดาวหางปรากฏสว่างและอยู่สูงจากขอบฟ้าพอสมควร เปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ชมปรากฏการณ์นี้อย่างชัดเจน

การเดินทางของดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส

ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส มีประวัติการค้นพบที่น่าสนใจ ถูกค้นพบครั้งแรกในช่วงต้นปี 2566 โดยความร่วมมือระหว่างนักดาราศาสตร์จากหอดูดาวจื่อจินซานในประเทศจีน และระบบเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ในประเทศแอฟริกาใต้ นับตั้งแต่การค้นพบ นักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้ติดตามสังเกตการณ์อย่างต่อเนื่อง และพบว่าความสว่างของดาวหางเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นดาวหางที่โดดเด่นที่สุดแห่งปี 2567

ดาวหาง C/2023 A3 (Tsuchinshan-ATLAS) หรือ ดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ค้นพบครั้งแรกเมื่อช่วงต้นปี พ.ศ. 2566 โดยนักดาราศาสตร์จากหอดูดาวจื่อจินซาน (紫金山天文台) สาธารณรัฐประชาชนจีน และระบบเครือข่ายกล้องโทรทรรศน์ ATLAS (Asteroid Terrestrial-impact Last Alert System) ประเทศแอฟริกาใต้ นักดาราศาสตร์ทั่วโลกได้เฝ้าติดตามสังเกตการณ์ และพบว่าความสว่างปรากฏมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนต่อมาได้กลายเป็นดาวหางอันโดดเด่นแห่งปี พ.ศ. 2567

วิธีการสังเกตดาวหาง

ผู้สนใจสามารถติดตามชมดาวหางนี้ได้จนถึงช่วงปลายเดือนตุลาคม โดยสังเกตทางทิศตะวันตกหลังดวงอาทิตย์ตกดิน ลักษณะที่สังเกตได้คือจะมีลักษณะเป็นดาวสว่างที่มีหางเป็นฝ้าจาง ๆ ยืดยาวออกไป การใช้กล้องโทรทรรศน์หรือกล้องสองตาจะช่วยให้เห็นรายละเอียดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การถ่ายภาพด้วยเทคนิคการเปิดหน้ากล้องนาน ๆ จะช่วยให้เห็นหางของดาวหางที่ยาวออกมาได้อย่างชัดเจน

ข้อควรระวังในการสังเกตการณ์

แม้ว่าดาวหางจะปรากฏให้เห็นได้ด้วยตาเปล่าในพื้นที่ที่มีท้องฟ้าใสและแสงรบกวนน้อย แต่การสังเกตการณ์อาจมีอุปสรรคเนื่องจากประเทศไทยยังคงอยู่ในช่วงมรสุม ทำให้ท้องฟ้ามีเมฆมากในหลายพื้นที่ ผู้สนใจจึงควรเลือกพื้นที่ที่มีท้องฟ้าโปร่งและมีแสงรบกวนน้อยเพื่อโอกาสในการชมดาวหางที่ดีที่สุด นอกจากนี้ การตรวจสอบสภาพอากาศล่วงหน้าและการเลือกสถานที่ห่างไกลจากแสงเมืองจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสังเกตเห็นดาวหางได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ความสำคัญทางดาราศาสตร์

การปรากฏตัวของดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส ไม่เพียงแต่เป็นปรากฏการณ์ที่สวยงามน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับประชาชนทั่วไป แต่ยังมีความสำคัญทางวิทยาศาสตร์อย่างมาก นักดาราศาสตร์ทั่วโลกใช้โอกาสนี้ในการศึกษาองค์ประกอบทางเคมีของดาวหาง ซึ่งอาจให้ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อตัวของระบบสุริยะในยุคแรกเริ่ม นอกจากนี้ การศึกษาวงโคจรและพฤติกรรมของดาวหางยังช่วยให้เราเข้าใจถึงกลไกการเคลื่อนที่ของวัตถุในอวกาศได้ดียิ่งขึ้น

การเตรียมพร้อมสำหรับการชมดาวหางครั้งต่อไป

แม้ว่าดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส จะเป็นปรากฏการณ์ที่หาชมได้ยาก แต่ท้องฟ้ายังมีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจอีกมากมายรอให้เราได้สัมผัส ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารและปฏิทินทางดาราศาสตร์จากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เพื่อไม่พลาดโอกาสในการชมปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นในอนาคต

ท้ายที่สุด การปรากฏตัวของดาวหางจื่อจินซาน-แอตลัส เป็นเสมือนการเตือนใจให้เราตระหนักถึงความมหัศจรรย์ของจักรวาล และกระตุ้นให้เกิดความสนใจในวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ในหมู่เยาวชนและประชาชนทั่วไป ปรากฏการณ์เช่นนี้ไม่เพียงแต่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่ยังเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเข้าใจโลกและจักรวาลรอบตัวเราได้ดียิ่งขึ้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง