คัดลอก URL แล้ว
“แซม ยุรนันท์” เปิดใจ ไม่ได้เป็นกรรมการ-หุ้นส่วนบริษัทขายตรงชื่อดัง พร้อมให้ปากคำตร.

“แซม ยุรนันท์” เปิดใจ ไม่ได้เป็นกรรมการ-หุ้นส่วนบริษัทขายตรงชื่อดัง พร้อมให้ปากคำตร.

วันที่ 9 ตุลาคม 2567 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ “แซม” ดารานักแสดง และนักการเมือง แถลงชี้แจงต่อสื่อมวลชนกรณีร่วมธุรกิจขายตรงชื่อดัง หลังมีชื่อและตำแหน่งเป็น ผอ.ฝ่ายพัฒนาและการวิจัยผลิตภัณฑ์ของบริษัท

โดยแซม เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้จักกับผู้บริหาร ผ่านหลักสูตรการเรียนหนึ่ง ก่อนที่จะชักชวนกันมาทำธุรกิจซึ่งมองว่าธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ใหม่ และน่าสนใจ ซึ่งตำแหน่งที่ตัวเองได้ก็เป็นตำแหน่งผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาและวิจัย โดยทำหน้าที่นำเสนอ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ว่าไม่ได้มีอำนาจในการตัดสินใจหรือวิจัยผลิตภัณฑ์ และมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองจบหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (Master of Science) สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ (Program in Anti-Aging and Regenerative Science)

ซึ่งตนเคยเปิดคลินิกเสริมความงามมาก่อน จึงทำให้พอมีความรู้ในด้านนี้ รวมถึงตนได้มีโอกาสไปสอนในคลาสผลิตภัณฑ์ ซึ่งในขณะนี้จะสอนเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ ว่าต้องใช้งานอย่างไร บุคคลประเภทไหนควรใช้ แต่ไม่เคยชี้แนะให้คนที่เข้ามาเรียนตัดสินใจร่วมลงทุนธุรกิจ เพราะต้นบอกเสมอว่าการตัดสินใจเป็นดุลพินิจของบุคคล

แต่ส่วนตัวยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ทุกตัวที่จำหน่ายมีการผ่าน อย. และ กระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมบอกว่า ก่อนที่ตนเองจะรับงานแต่ละชิ้นโดยส่วนตัวจะต้องศึกษาว่าผลิตภัณฑ์แต่ละอย่างมีคุณภาพหรือเชื่อถือได้หรือไม่ ทางนี้ตรวจสอบการทำงานของบริษัทในระดับหนึ่ง และไม่พบว่าบริษัทดำเนินธุรกิจผิดกฎหมาย โดยตนเองก่อนหน้านี้ได้ประกอบธุรกิจมาหลายอย่างจึงต้องตรวจสอบความถูกต้อง ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ให้ชัดเจน

ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับบอสพอล เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรผิด และพร้อมรับผิดชอบเยียวยาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย และอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีความผิดพลาดในการประกอบธุรกิจในส่วนใด และมีผู้เสียหายที่ต้องเยียวยามากน้อยแค่ไหน ทั้งตัวเองและบอสพอลรู้สึกตกใจ และเสียใจ เมื่อทราบข่าวว่ามีคนเครียดหนักถึงขั้นจะฆ่าตัวตาย เนื่องจากขายสินค้าไม่ได้ และไม่คิดว่าเรื่องจะใหญ่ขนาดนี้ ส่วนดาราที่เกี่ยวข้องได้มีการพูดคุยบางคนเช่น มิน พีชญา , กันต์ กันตถาวร นักแสดง และนายแบบ เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยรายละเอียดเนื่องจากตอนนี้ทุกคนอยู่ในอาการตกใจ

ส่วนกรณีผลิตภัณฑ์เม็ดฟู่ที่เคยถูกอย.เตือนว่า เป็นสินค้าอันตราย ยืนยันว่าตนไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่ถึงปี และเข้ามารับหลังจากที่ผลิตตภัณฑ์นี้ออกมา

ส่วนรายได้ที่ได้รับจากบริษัท เป็นรูปแบบเปอร์เซ็นต์จากยอดขายผลิตภัณฑ์ ที่ตนเองเข้าไปร่วมพัฒนาและดูแลอยู่เท่านั้น ยืนยันว่ารายได้ที่ตัวเองได้มานั้นไม่ได้เยอะอย่างที่หลายคนคิด และไม่ได้รับส่วนแบ่งดิวเลอร์ หรือแม่ข่าย และเมื่อถามถึงตัวเลข ด้านเจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลแต่เผยว่าไม่ถึง 10 ล้านบาท และไม่ได้มีหุ้นอยู่ในบริษัท และบริษัทนี้มีกรรมการบริหารเพียงแค่คนเดียว คือ บอสพอล และไม่เคยเข้าร่วมการประชุมบริษัท หรือมีส่วนในการกำหนดทิศทางของบริษัท

ทั้งนี้หากเจ้าที่ตำรวจติดต่อให้เข้าไปให้ปากคำข้อมูล ตนเองก็พร้อม เพราะตอนนี้ตนเองไม่ใช่จำเลย ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานงานจากทางตำรวจหน่วยใด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง