เจ้าหน้าที่กรมชลประทาน ได้ร่วมกับ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา หลังสถานการณ์ขณะนี้ อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง และมีพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่ติดริมแม่น้ำ น้ำได้เอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนบางส่วนแล้ว
โดยภายหลังการประชุม โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุว่า กรมชลประทาน ได้บริการจัดการน้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อน ในอัตราไม่เกิน 2,200 ลบ.ม./วินาที เพื่อกระจายออกสู่ทุ่งรับน้ำต่างๆ ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาไม่ให้มวลน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของกรุงเทพมหานครจำนวนมาก
ส่วนสาเหตุที่ต้องเร่งระบายน้ำในช่วงนี้ เนื่องจาก น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายังมีปริมาณมาก และยังเฝ้าระวังมวลน้ำจากภาคเหนือที่กำลังไหลมาสมทบ รวมถึง น้ำทะเลที่จะหนุนสูงในช่วงวันที่ 18 ตุลาคมนี้
โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยว่า กรมอุตุนิยมวิทยา ประเมินปริมาณฝนในช่วงนี้ เริ่มลดน้อยลง จึงยังไม่น่าเป็นห่วงว่า น้ำจะไหลเข้าสู่กรุงเทพฯในปริมาณมาก แต่ต้องยอมรับว่า พื้นที่ติดริมแม่น้ำขณะนี้ ได้รับผลกระทบแล้วบางส่วน แต่คาดว่า จะไม่ขยายเป็นวงกว้างไปมากกว่านี้