คัดลอก URL แล้ว
ผู้ประกอบการ “รถบัส” โอด! ถ้ายกเลิกทัศนศึกษา ก็เจ๊งกันหมด

ผู้ประกอบการ “รถบัส” โอด! ถ้ายกเลิกทัศนศึกษา ก็เจ๊งกันหมด

วันที่ 2 ตุลาคม 2567 มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรถบัสนำเที่ยว ได้โพสต์ข้อความเห็นใจ หลังเกิดเหตุสุดเศร้า เพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษานักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี จนเกิดการสูญเสียครู และนักเรียนรวม 23 ชีวิต เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม จนถึงขั้นมีกระแสขึ้นมาว่า ให้ยกเลิกกิจกรรมทัศนศึกษาไปเลย โดยระบุว่า “ฟังข่าวแล้วอึดอัดใจ ผมขอเป็นอีกหนึ่งเสียงในการพูดเรื่องที่นักข่าวโจมตีว่า รถจดทะเบียนมานานแล้วอายุปีขนาดนี้ใช้งานได้อย่างไร อยากให้คุณนักข่าวอย่าเน้นขายข่าวนะครับ ต้องแยกแยะด้วยว่ารถแต่ละคัน มีสมรรถนะการใช้งานผ่านการตรวจระบบการดูแลจากสำนักงานขนส่งทุกคัน

แต่หลักๆ คือ สิ่งที่มันเกิดขึ้นเกิดจากคนขับรถเป็นลำดับแรก คุณอย่าโจมตีอาชีพที่เขาทำโดยสุจริตเลย ไม่ว่าคุณจะเป็นสำนักไหนหรือว่าออนไลน์ คุณต้องให้ความแยกแยะ ให้ความเตือนสติแก่คนอ่านข่าว เพื่อเป็นช่องทางช่วยกันหาทางออกที่ดี

การเดินทางไกล หรือการไปทัศนศึกษาของเด็ก คือทางราชการโรงเรียนต้องจัดบุคลากรที่ไว้ใจได้นั่งคู่กับคนขับ ถ้าคนขับเกิดการขับหวาดเสียวหรือขับอันตราย หรือขับไม่ปลอดภัยแบบไหนสามารถสั่งรถหยุดจอดได้เลย แบบนี้คือทางออกที่ดีที่สุดครับ

คุณลองเอารถยนต์ที่ผลิตจากยุโรป รถยนต์ที่ผลิตจากญี่ปุ่นมาเปรียบเทียบกับข่าวดูสิครับ บนท้องถนนทุกวันนี้อุบัติเหตุอันไหนมันเกิดมากกว่ากัน ไม่ว่าจะรถใหม่แค่ไหน ไม่ว่าจะรถระบบไหน ไม่ว่าจะรถรุ่นอะไรมันก็เกิดได้ครับ อย่าโจมตีเพื่อขายข่าวอย่างเดียวต้องแยกแยะให้ถูกด้วยครับ

#ส่วนมากบางคันเพิ่งออกมาป้ายแดงก็ยังเกิดอุบัติเหตุรุนแรงเหมือนกันหมด

#ขอความเป็นธรรมให้กับรถจดประกอบของคนทุนน้อยแต่ไม่ได้แปลว่าเราจะดูแลทำรถไม่ดีทุกอย่างเราใช้ของดีของใหม่ตลอดแต่แค่ว่าเราไม่มีเงินที่จะไปออกรถใหม่ป้ายแดงมาใช้แค่นั้นเองเพื่อที่จะหากินต่อไปหน่อยครับ

แต่วันนี้ผมก็ยังรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะมันเป็นอุบัติเหตุกับเด็กและเยาวชนขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามเจ้าของโพสต์ ได้เปิดใจเล่าว่า ตนก็เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการรถบัส ซึ่งตนรู้สึกอึดอัดใจเป็นอย่างมากกับสื่อออนไลน์บางสื่อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นสื่อมวลชนตัวจริง หรือนักข่าวตัวจริงหรือไม่ เห็นติดคำว่าข่าวกันเป็นแถว ที่มาขยี้เรื่องรถบัสอายุการใช้งานหลายปี จนทำให้ตนได้รับผลกระทบ จึงโพสต์ระบายไปแบบนั้น ซึ่งตนมองว่าการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ให้ยกเลิกทัศนศึกษา อย่าลืมว่าดรีมเวิลด์ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์ไม่สามารถเดินมาหาเด็กเด็กได้ การยกเลิกทัศนศึกษาไม่ได้เป็นเพียงแต่ทำให้ธุรกิจรถบัสอย่างพวกตนเสียหาย แต่ตนมองว่าปิดกั้นโลกกว้างของเด็กๆ เพราะเด็กบางคนครอบครัวไม่ได้มีฐานะที่จะสามารถพาบุตรหลานไปท่องเที่ยวได้ ซึ่งตนเองก็มีรถบัสที่เป็นรถจดประกอบ ที่จะบอกว่ารถพวกนี้มีแชสซีเป็นตัวหัวใจหลักของรถ แต่อย่าลืมว่ารถปีเก่าก็จริงแต่เรามีการ Maintenance ดูแลอยู่ตลอด

อะไรที่หมดอายุการใช้งานเราก็ปรับเปลี่ยน อย่างเช่น เครื่องยนต์เราก็เปลี่ยนให้มันสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งในการเปลี่ยนแต่ละอย่างเราเข้าตรวจที่กรมการขนส่งอย่างถูกต้องทุกครั้ง

ถึงตนจะเป็นรถจดประกอบ เป็นรถปีเก่า แต่ต้นก็ดูแลรถเป็นอย่างดี เครื่องยนต์ต้องดี ช่วงล่างต้องดี เบรคต้องดี รถต้องพร้อมใช้งาน นี่คือหัวใจหลักของรถ เพราะนี่คือเครื่องมือการทำมาหากินของเรา หากดูแลไม่ดีธุรกิจตนคงอยู่ไม่ได้มาถึงทุกวันนี้ และยิ่งมีข่าวมาขยี้แบบนี้ทำให้ตนเสียหายหนักมาก ไม่ใช่ว่าเพียงตน แต่ทุกผู้ประกอบการรถบัสที่มีทั่วประเทศเค้าเสียหายกันหมด แล้วแบบนี้พวกตนจะทำอาชีพอะไร เพราะข่าวที่ขยี้ขึ้นมาพวกตนเสียหมดแล้ว ท้ายนี้พวกตนจึงขอวิงวอนสื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ประกอบการรถบัสด้วย

นอกจากนี้ผู้ประกอบการรถบัส ยังได้พาผู้สื่อข่าวไปดูเครื่องยนต์ของรถว่าเครื่องยนต์นั้นแห้งไม่มีอะไรรั่วซึมออกมา และรถต้องมีถังดับเพลิงไว้สองถัง ที่จะต้องติดอยู่ด้านหน้า-หลัง และประตูฉุกเฉินจะเป็นระบบลมสามารถตัดลมได้ที่คนขับเลย ซึ่งทุกอย่างได้ตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก

พร้อมขอยืนยันว่า สิ่งที่ตนโพสต์ออกไปนั้นอยากให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่มีอำนาจหาทางช่วยเหลือ หามาตรการที่ดีกว่ามายกเลิกการทัศนศึกษาของเด็กๆ ด้วย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง