วันที่ 15 กันยายน 2567 “หนูหริ่ง” นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “สมบัติ บุญงามอนงค์” ถึงวิธีการล้างคราบโคลนหลังน้ำท่วมลดลง พร้อมแนะนำให้รีบทำในขณะที่โคลนยังไม่แห้ง โดยได้ระบุว่า
“สงครามโคลน
คงได้เห็นภาพข่าวหลังน้ำลดแล้วว่าเรื่องแรกที่ต้องทำคือการสู้กับโคลน การล้างบ้านไม่ใช่เอาไม้ถูพื้นมาเช็ดพื้น แต่คือการขนโคลนและล้างคราบโคลนที่ติดอยู่ข้างพนังบ้านหรือแม้แต่ฝ้าเพดานกันเลยทีเดียว
การทำสงครามกับโคลนต้องรีบทำตอนที่โคลนยังไม่แห้ง หาวิธีการรีดโคลนออก ไม่ใช่การตักเพราะจะหมดแรงเสียก่อน โดยดำเนินขั้นตอนต่อไปนี้
- ขนสิ่งของทุกอย่างที่สามารถยกขึ้นได้ออกจากบ้าน ให้ระวังสัตว์มีพิษที่แอบซ่อนอยู่ตามมุมอับและกองสิ่งของ
- สำรองน้ำใส่ถังขนาดใหญ่ไว้ ถ้าไม่มีน้ำประปาก็ใช้น้ำแม่น้ำที่ขุ่นๆล้างไปได้ก่อน
- หาเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ไม่แนะนำที่ใช้ไฟฟ้าแต่ใช้ปั้มน้ำที่เป็นเครื่องยนต์เพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด อ้อ…อย่าลืมสับคัทเอาท์ทั้งบ้านแล้วใช้ไขควงวัดไฟตรวจสอบให้มั่นใจว่าปลั๊กไฟไม่มีไฟแล้วเท่านั้น
- หารองเท้าบูทมาใส่ แต่เข้าใจว่าหายากในเวลานี้ ใครล้างบ้านเสร็จแล้วควรบริจาคเข้ากองกลางให้คนอื่นยืมใช้
- เมื่อบ้านว่างแล้วใช้น้ำฉีดแล้วใช้ไม้รีดน้ำรีดโคลนออก กรณีที่โคลนสูงระดับแข้งหรือเอวอย่าคิดเรื่องใช้จอบตักดิน ให้หารถดับเพลิงหรือรถน้ำขนาดใหญ่เอาน้ำฉีดให้เหลวแล้วไล่โคลนออกจากบ้าน แต่การทำเช่นนี้ได้ระดับพื้นดินนอกบ้านต้องต่ำกว่าบ้าน ดังนั้นต้องทำทางน้ำไว้ได้เลย
- น้ำยาล้างห้องน้ำมีส่วนผสมของคลอรีน อย่าใช้เยอะเพราะมันจะแสบตา
- ล้างขั้นบนก่อน เสร็จแล้วค่อยล้างชั้นล่างโดยล้างจากด้านในออกมาด้านนอก
- เมื่อล้างบ้านสะอาดแล้ว ต้องล้างสิ่งของที่จะขนเข้ามาไว้ในบ้านให้สะอาดก่อนขนเข้าบ้าน
- ระวังคำพูดในสมองที่พูดว่า “ล้างแบบนี้เมื่อไหร่จะเสร็จ” เพราะยังไงก็ต้องล้างให้เสร็จไม่มีคำตอบอื่น ทำไป
- ช่วยกันล้างบ้านดีกว่าล้างคนเดียวบ้านใครบ้านมัน ใช้โอกาสนี้สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านหรือญาติพี่น้องเพื่อนฝูง ใครว่างไปเสนอตัวช่วยสัก 1 วัน คนเรานับถือกันตอนลำบากไม่ใช่แค่รู้จักกัน
การบริจาคสิ่งของในช่วงสงครามโคลน
- รองเท้าบูท
- ไม้รีดน้ำ
- พลั่ว จอบ
- ถังใส่ปูน กระเป๋ง
- ถุงมือ
- กระสอบพลาสติกใส่ขยะน้ำท่วม
- ถังใส่น้ำขาด 60 ลิตรขึ้นไป
สามารถสมัครเป็นอาสาสมัคล้างบ้านกับมูลนิธิกระจกเงา เชียงราย ได้ที่ 0629231503 ตัวศูนย์อาสาสมัครอยู่ที่ หอประชุมกาสะลองคำ ม.ราชภัฎเชียงราย”