คัดลอก URL แล้ว
“ปกรณ์วุฒิ” โต้ ไม่เคยเป็นพรรคฝ่ายแค้น ลั่น ไม่รู้ใครสั่งให้ “อุ๊งอิ๊งค์” พูดหรือไม่

“ปกรณ์วุฒิ” โต้ ไม่เคยเป็นพรรคฝ่ายแค้น ลั่น ไม่รู้ใครสั่งให้ “อุ๊งอิ๊งค์” พูดหรือไม่

นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงภาพรวมการอภิปราย วาระการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.) ว่า วันแรก ในการจัดสรรเวลาถือว่า ยังอยู่ในกรอบ ทำให้วันนี้ยังเหลือเวลาพอกับจำนวนผู้อภิปรายที่ยังคงเหลืออยู่ ซึ่งวันนี้ คาดว่าอาจจะจบในเวลาประมาณ 23.00 น. แต่เนื้อเรื่องการวางแผนเวลาคงไม่มีปัญหาอะไรเพราะมีการพูดคุยกันอยู่ตลอด

ส่วนเรื่องของเนื้อหาก็เป็นที่น่าพอใจ เพราะทีมคณะกรรมการที่คอยดูแลในเรื่องของเนื้อหาการอภิปรายก็ค่อนข้างพอใจ เพราะทุกคนก็ทำได้ดี อาจจะเป็นห่วง ในเรื่องของบรรยากาศการอภิปรายในสภาที่มีการประท้วงกันหลายรอบ มีการไม่ให้พูดถึงเรื่องอดีต ทั้งที่จริงแล้วพรรคร่วมรัฐบาลก็พูดมาตลอดว่า ปัจจุบันนี้เป็นรัฐบาลที่สืบทอด เจตนารมย์และนโยบายจากรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แต่พอเวลาฝ่ายค้านพูดถึง รัฐบาลกลับประท้วง ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลก็พูดถึงรัฐบาลเดิมอยู่บ่อยครั้ง

ส่วนอีกเรื่องที่น่ากังวล คือ สไลด์ที่ขึ้นหน้าจอตอนอภิปราย มองว่า การเบลอหน้าบุคคลภายนอก ซึ่งบุคคลภายนอกก็คืออดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีชุดที่ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง ในส่วนตัว มองว่า การเบลอหน้า ตนรู้สึกว่าเป็นการไม่ให้เกียรติคนในภาพเสียด้วยซ้ำ และบางครั้งก็ดูไม่ดียิ่งกว่าเดิมเสียอีก เพราะทุกคนก็เป็นบุคคลสาธารณะ ฃเรื่องที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรได้พูดถึงก็เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า ปัญหา ที่เกิดขึ้นมาและยังสะสางไม่เสร็จในรัฐบาลที่ผ่านมาสรุปแล้วรัฐบาลนี้จะดำเนินงานต่ออย่างไร และคิดว่าสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ ก็เป็นที่ที่ประชาชนเลือกเรามาให้พูดถึงเรื่องข้างนอกที่กระทบต่อชีวิตพี่น้องประชาชน

ดังนั้นการเคร่งครัดไม่ให้พูดถึงบุคคลภายนอกเลย คิดว่าจะทำให้สภาฯ ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เพราะประชาชนให้เลือกเราให้พูดถึงปัญหาของเขา พูดถึงเรื่องราวภายนอกที่อาจจะกระทบต่อชีวิตของเขา ไม่ได้เลือกพวกเรามาให้พูดคุยกันเอง จึงมองว่าน่าจะเป็นปัญหาและเป็นบรรทัดฐานที่จะมีผลกระทบต่อการทำหน้าที่สภาผู้แทนราษฎร

ส่วนที่รัฐบาลได้ขอว่า อยากให้ทำงานร่วมกันได้ นายปกรณ์วุฒิ บอกว่า เรื่องที่เห็นร่วมกันก็ทำงานร่วมกันได้อยู่แล้ว และถ้าปัญหาใดที่เป็นประโยชน์เราก็คงไม่ขัดอยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็เห็นว่า เราสนับสนุนหลายเรื่อง ไม่ได้ขัดแย้ง หลายเรื่องก็มีการพูดคุยกันในเว็บฝ่ายค้านแล้วก็สามารถทำให้ราบรื่นไปได้ตลอดรอดฝั่ง ย้ำว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายแค้นอยู่แล้ว และคิดว่าถ้าทุกคนได้ติดตามการทำงานในสภาก็จะเห็นว่า หลายครั้งมากที่เราก็มีความคิดเห็นที่ตรงกัน

เมื่อถามถึงความเห็นว่า มีการมองว่า พรรคประชาชนไม่กล้าค้านพรรคเพื่อไทย เช่น เรื่องคนชั้น 14 นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้าได้ติดตามการอภิปราย ตามมาตร 152 ก็จะเห็นว่า นายแพทย์วาโย อัศวรุ่งเรือง สส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน มีการอภิปรายที่หนักเหมือนกัน และเนื้อหาก็ค่อนข้างเข้มข้น ในวันนั้นก็มีรัฐมนตรีในขณะนั้นลุกขึ้นมาสวนกลับและกึ่งข่มขู่นายแพทย์วาโย ว่า จะร้องเรียนเรื่องของมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ด้วยซ้ำ แต่ตนมองว่า เป็นเรื่องของการยืนอยู่บนหลักการมากกว่า ดังนั้นเมื่อถามว่าเราแม่งกล้าขัดพรรคเพื่อไทยหรือไม่หากเป็นหลักการที่เราเห็นด้วยแล้วเราขัดนั่นจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน

นายปกรณ์วุฒิ ยังบอกว่า เมื่อวานนี้ ก็มีหลายคนที่อภิปราย และกล่าวถึง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และถูกประท้วง ที่ตนพูดถึงว่า ถึงบุคคลภายนอกไม่ได้เลยมันอาจจะเป็นปัญหา แต่ถามว่าสิ่งที่รัฐมนตรีหลายคนพูดเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ ตนก็เห็นด้วย ไม่ว่าคำแนะนำของใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นนายทักษิณหรือใคร หากเป็นประโยชน์และรัฐบาลหยิบไปใช้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของพี่น้องประชาชน รวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรก็มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์และมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยได้

ส่วนที่นายกได้กล่าวในที่ประชุมว่า ไม่อยากให้เป็นพรรคฝ่ายแค้น นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า หากนายกฯ ได้ติดตามการทำงานของเรา 1 ปี จะเห็นได้ว่า เราไม่ได้ทำตัวเป็นพรรคฝ่ายแค้น ตนไม่แน่ใจว่า เมื่อวานนี้ นายกฯ ได้ติดตามการอภิปรายของพรรคประชาชนหรือพรรครวมฝ่ายค้านหรือไม่ จึงไม่มั่นใจว่าเราไปทำตัวเป็นพรรคฝ่ายแค้นตอนไหน // หรือใครไปบอกให้นายกฯ พูดแบบนี้ ฉันอยากให้นายกฯเปิดใจให้กว้างและหากได้ฟังจริงๆ ก็จะรู้ว่า ทางเรามีคำแนะนำและข้อติมีที่นายกฯ อาจจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเห็นด้วยแล้วนำไปใช้ก็จะเป็นประโยชน์

ส่วนที่นายกรัฐมนตรีระบุว่า ไม่อยากให้ทางพรรคฝ่ายค้านใช้วาทกรรมสร้างความเกลียดชังและวาทกรรมทางการเมืองในการอภิปราย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า การทำงานในรัฐสภาหนึ่งปีที่ผ่านมาคนที่พูดคำว่าวาทะกรรมเยอะที่สุดคือนายภูมิธรรมเวชชัยรองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายค้านแทบ จะพูดว่าวาทกรรมเลย ซึ่งสังเกตทุกครั้งที่นายภูมิทำเปิดใหม่พูดจะมีคำว่าวาทะกรรมทุกครั้งจึงไม่แน่ใจว่านายภูมิธรรม ติดใจอะไรหรือมีอะไรกับคำนี้ หากตั้งใจฟังจริงๆ แล้วไม่มีอคติ คงจะรับรู้ได้ว่า ข้อติติงหลายอย่าง เราเสนอด้วยความหวังดี สามารถทำงานด้วยกันได้ในเรื่องที่เห็นด้วยและเราก็ยืนยันตลอดเวลาตามที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ก็ยืนยัน เรื่อง ไหนที่เห็นร่วมกันก็ทำงานร่วมกันได้

ส่วนการทำงานของรัฐบาลหลังจากนี้ ได้ขีดเส้นเวลาไว้หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงต้องพูดคุยกันอีกครั้ง เพราะตอนแรกวางแผนไว้ว่า จะอภิปราย มาตรา 152 ในสมัยประชุมนี้ซึ่งจริงๆ ณ ตอนนี้ก็ยังมีการพูดคุยกันอยู่ แต่พอมีการเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สถานการณ์อาจจะเปลี่ยน แต่เราก็ยังยืนยันว่า ถ้ามีเนื้อหาสาระก็เราก็พร้อมที่จะเปิดอภิปรายใหญ่

เมื่อถามถึงภาพรวมการแถลงนโยบายของนางสาวแพทองธาร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า ตามกฎหมาย ตามข้อบังคับ เป็นการอ่านคำแถลง จึงไม่สามารถกล่าวโทษนายกฯ ได้ เพราะไม่แน่ใจว่า จะประเมินอย่างไร เพราะการอ่านมันก็คือการอ่าน แต่ก็เป็นไปตามข้อบังคับ ไม่ได้มีอะไรที่ต้องวิพากษ์วิจารณ์

ส่วนการชี้แจงข้อซักถามของฝ่ายค้าน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดใจเรื่องวิธีการพูดหรืออะไร แต่อยากให้นายกฯ ในบางเรื่องที่อาจจะไม่จำเป็นชี้แจงเอง ก็ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับปัญหา ตอบคำถามให้ชัดเจน ตอนอยากเห็นภาพรวมของคณะรัฐมนตรีทั้งชุดตอบคำถามที่ชัดเจนมากกว่าที่จะลุกขึ้นมาแล้วก็พูดในหลักการกว้างกว้างที่เจ้าหน้าที่เตรียมมาให้ตนคิดว่าตอนซ้อมตนก็ให้เพื่อนสส. ระบุคำถามให้ชัดว่าเราอยากทราบอะไรจากรัฐบาลหรือความชัดเจนเรื่องใด


ข่าวที่เกี่ยวข้อง