หนึ่งเดือน 3 ตำแหน่ง “สามารถ”ขอบคุณ”บิ๊กป้อม-กก.บห.พปชร.”ที่ให้โอกาสทำหน้าที่รองโฆษกพรรค เตรียมใช้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ พร้อมขับเคลื่อนพรรคให้มีคะแนนเพิ่มขึ้น
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับการแต่งตั้งให้ปฎิบัติหน้าที่รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐว่า ต้องขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มอบหมายให้ความสำคัญและมอบหมายภารกิจให้ทำอยู่หลายครั้ง เช่น เป็นโฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรค ตนก็จำไม่เคยลืม และก็ทำงานในทุกบทบาท ถึงแม้จะมีตำแหน่งหรือไม่มีก็ตาม แต่วันนี้ตนได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจจาก พล.อ.ประวิตร และกรรมการบริหารพรรค ที่ให้ตนปฎิบัติหน้าที่นี้
นายสามารถ กล่าวต่อว่า วันนี้สิ่งที่ต้องทำคือการปกป้องหัวหน้าพรรคและพรรคพลังประชารัฐ จะต้องสื่อสารออกไปอย่างทันถ่วงที เพื่อให้ข้อมูลเฟคนิวส์นั้นไม่ถูกปั่น งานการเมืองจะต้องรวดเร็ว ถ้าประชาชนไปเข้าใจในข้อมูลที่ผิด กระบวนการในการแก้ไขก็จะยิ่งยาก ซึ่งตนก็จะเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งในการที่จะขับเคลื่อนในเรื่องคะแนนของพรรคให้มีมากขึ้น เพื่อที่จะทำให้ผู้สมัคร สส.และสมาชิกของพรรคนั้นเข้มแข็งและแข็งแรงในการเลือกตั้งครั้งต่อไป
“เมื่อหัวหน้าพรรคแต่งตั้งผมแล้วก็จะขอพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงาน และต้องขอบคุณทุก ๆ คน ที่ออกมาเรียกร้องให้ผมมีตำแหน่ง แต่ผมย้ำเสมอว่า ไม่ได้ยึดติดกับตำแหน่ง เพราะไม่ว่าตำแหน่งไหนเราก็ทำงานได้”
ทั้งนี้ นายสามารถ ยังได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ ประธานที่ปรึกษาผู้รับผิดชอบกรุงเทพมหานคร ของพรรคพลังประชารัฐ รวมถึงประธานคนรุ่นใหม่ของพรรคด้วย
โดยนายสามารถนั้น จบการศึกษาจาก คณะนิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต และวิศวกรรมศาสตร์บัณฑิตสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปริญญาโท จากวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาบริหารทรัพยากรอาคาร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศรีปทุม และรัฐประศาสนศาสตร์ มหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ มหาวิทยาลัยทองสุขปริญญาตรี ซึ่งในขณะนี้ กำลังศึกษาปริญญาเอก อยู่ที่ สาขาการเมือง คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้านการทำงาน นายสามารถเคยเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม และเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแห่ง (ฉบับที่ …) พ.ศ…. (หลักเกณฑ์และวิธีการใกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องคดี) สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงทำหน้าที่ในคณะกรรมาธิการวิสามัญอีกเป็นจำนวนมาก
ส่วนผลงานที่ทำให้หลายคนรู้จักนายสามารถเป็นอย่างดีก็ คือ การทำหน้าที่เป็นประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโช่ แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ.2558 จนถึงปัจจุบัน โดยได้เดินหน้าแก้ปัญหาในการป้องกันและปราบปรามการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และคดีแชร์ลูกโซ่อีกหลายคดีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
