วันที่ 6 กันยายน 2567 ภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/ 2567 นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ว่าการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคครั้งนี้ ไม่ได้ถือถือเป็นการรีแบรนด์ เพียงแต่ทำให้ชัดเจนในแนวทางการทำงานมากขึ้น ส่วนสมาชิกที่พร้อมสู้ไปกับพรรคก็มีความตั้งใจทำงานทางการเมือง คนที่ไม่อยู่ก็ออกไปแล้ว ซึ่งก็ชัดเจนว่าไม่ได้ทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้พรรคย้ำถึงความเป็นหนึ่งเดียว แต่ภาพที่ปรากฏออกมาก็เป็นเรืองมาโดยตลอดนั้น บอกว่าเป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง มีหลายคนหลายกลุ่มมาอยู่ด้วยกันก็มีความเห็นที่ไม่ตรงกันบ้างแต่ไม่อยากให้มองที่พรรค เพราะพรรคอื่นก็มีปัญหาแบบนี้ อยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร ซึ่งรอบนี้ก็ไม่ได้เกิดจากภายในพรรคอย่างเดียว แต่เกิดจากคนภายนอกเข้ามาครอบงำสั่งการ จากการจัดตั้งรัฐบาลที่มีคนภายนอกมาสร้างเงื่อนไข สร้างความแตกแยกภายในพรรค ถ้าภาษาการเมืองก็จะเรียกว่าดูด หรืองูเห่า แบบนี้ถือว่าไม่ใช่ลูกผู้ชายทางการเมือง
ส่วน สส. ที่โหวตเห็นด้วยในการผ่านร่างงบประมาณ 2568 วานนี้ (5 ก.ย.) จะถือเป็นพฤติกรรมที่ต้องขับออกหรือไม่ นายชัยวุฒิมองว่ายังไม่ถึงจุดนั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องการขับใครออกจากพรรค ส่วนการที่กลุ่มของร้อยเอกธรรมนัส อยากให้มีการขับออก เรื่องนี้ตนก็ไม่ได้ทราบถึงกลุ่มที่แยกออกไป แต่ขอให้รอดูสถานการณ์อีกทีนึงว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพรรคพลังประชารัฐ ว่าอาจจะเป็นการแก้แค้นของนายทักษิณ ชินวัตร นายชัยวุฒิ ระบุว่าเรื่องนี้ตนไม่ทราบ ต้องไปถามว่าท่านแค้นแค่ไหน แต่เรื่องการเมืองไม่อยากให้ไปพูดถึงการเคียดแค้น ต่างคนต่างก็มาทำหน้าที่ การเมืองก็เปลี่ยนมาตลอด คนที่ไม่เคยรักกันก็กลับมารักกันตลอดผลประโยชน์ลงตัวก็มาทำงานด้วยกันได้ หากมีโอกาสจะร่วมรัฐบาลหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ
เมื่อถามต่อว่าเหตุการณ์ของ ร.อ.ธรรนัส ถือเป็นการเสื่อมอำนาจการปกครองของพลเอกประวิตรหรือไม่ ตนขอดูต่อไปว่าจะเป็นอย่างไรอย่างไร แต่ก็เชื่อมั่นว่าพลเอกประวิตร ก็ยังเป็นคนเดิมความมุ่งมั่น มีพลังที่จะทำงานให้บ้านเมือง ใครจะอยู่ใครจะไปก็เป็นเรื่องคนภายนอกที่เราบังคับไม่ได้
ขณะที่การทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรค ก็ขอดูต่อไป อย่างการประชุมในวันนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการทำงาน ส่วนการตรวจสอบรัฐบาลมีหลายช่องทาง ทั้งในสภา การอภิปราย ก็คงทำหน้าที่อย่างเต็มที่ โดยย้ำว่า หลังจากนี้เมื่อไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่ต้องเกรงใจกัน ส่วนการที่พักประชาชนบอกว่า “เวลคัมลุงป้อม” จึงชี้แจงว่า พรรคที่ไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาลก็เป็นไปตามกติกาที่ต้องเป็นฝ่ายค้าน จะทำงาน อภิปรายอย่างไรก็ต้องคุยกัน แบ่งเวลากัน ส่วนการลงมติแต่ละพรรคก็มีทิศทางอยู่แล้ว คงต้องตามกันทุกเรื่อง