ตามที่กองทัพอากาศได้ดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนระยะที่ 1 ในปีงบประมาณ 2568-2572 เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ 19/ก หรือ F-16 A/B ณ ฝูงบิน 102 กองบิน 1 ซึ่งบรรจุประจำการ ตั้งแต่ปี พ.ศ.2531 เป็นเวลามากกว่า 36 ปีแล้วนั้น โครงการจัดหาฯ ดังกล่าวเป็นโครงการที่กองทัพอากาศให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยได้กำหนดไว้ในสมุดปกขาวกองทัพอากาศ พ.ศ.2567 (RTAF Whitepaper 2024) เนื่องจากเป็นโครงการที่ต้องใช้งบประมาณสูงจากภาษีของพี่น้องประชาชน ดังนั้นคณะกรรมการพิจารณาเลือกแบบและกำหนดวิธีการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนของกองทัพอากาศ ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการทหารอากาศ จึงตระหนักว่าการพิจารณาดำเนินโครงการดังกล่าว จะต้องทำด้วยความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีในการปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศไปอีกอย่างน้อย 30 ปี
ทั้งนี้เครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนต้องเป็นเครื่องบินที่มีขีดความสามารถดีกว่าเครื่องบินขับไล่โจมตี ที่กองทัพอากาศมีใช้งานในปัจจุบัน มีความเหมาะสมในด้านคุณสมบัติร่วมและความต่อเนื่อง (Commonality & Continuity) สามารถพัฒนาต่อยอดตามยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศและกองทัพไทยได้ในอนาคต รวมถึงต้องมีการดำเนินการตามนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ (Offset Policy) เพื่อพัฒนาไปสู่การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน เสริมสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีนานาชาติ
จากหลักการสำคัญและข้อพิจารณาข้างต้น คณะกรรมการพิจารณาเลือกแบบฯ ได้กำหนดขั้นตอนและเกณฑ์การพิจารณาที่ละเอียดรอบคอบโดยใช้ระยะเวลากว่า 10 เดือนในการดำเนินการ จึงสามารถสรุปได้ว่าเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ JAS 39 Gripen E/F มีขีดความสามารถที่ตอบสนองความต้องการทางยุทธการตามหลักนิยมและยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศ ทั้งยังมีอิสระในการใช้งาน และสามารถพัฒนาต่อยอดนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพการปฎิบัติการร่วมหลายมิติ (Multi-Domain Operations) ระหว่างกองทัพอากาศร่วมกับ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยงานความมั่นคงต่าง ๆ ภายใต้แนวความคิดการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลางได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต รวมถึงสอดคล้องกับกรอบงบประมาณที่กองทัพอากาศได้รับการจัดสรร ตลอดจนมีข้อเสนอตามนโยบายชดเชยการนำเข้ายุทโธปกรณ์ทั้งทางตรงในการสร้างโอกาสการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศนำไปสู่การพึ่งพาตนเอง เพื่อยกระดับมาตรฐานเข้าสู่ในระดับสากลและการชดเชยทางอ้อมในการให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากรในต่างประเทศทั้งภายในกองทัพอากาศและประชาชนทั่วไปให้มีความรู้และทักษะความชำนาญขั้นสูง รวมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านเกษตรกรรม ตลอดจนการสร้างศูนย์นวัตกรรมที่นำไปสู่การเสริมสร้างผลผลิตในการสร้างรายได้ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศไทย เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆในระยะยาวต่อไป
กองทัพอากาศจึงขอให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนว่าจะดำเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี JAS 39 Gripen E/F ให้เกิดความคุ้มค่าต่องบประมาณที่ได้รับจากภาษีของประชาชน มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีประสิทธิภาพ จะนำมาซึ่งการได้ยุทโธปกรณ์ที่มีสมรรถนะสูงเพื่อใช้ในการปกป้องอธิปไตยและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางอากาศ สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามตามสภาวะแวดล้อมในปัจจุบันและในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามสถานภาพด้านงบประมาณ และแนวทางการพัฒนาประเทศตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป