“สุริยะ” สั่งการทุกหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบเหตุอุทกภัย มอบหมาย “จท. -ทล. – ทช. – รฟท. – ทย.” เร่งแจกของยังชีพ – ของใช้จำเป็น – ติดตั้งสะพานเบลีย์ พร้อมเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หวังให้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตราย ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม และขอให้เฝ้าระวังบริเวณพื้นที่เสี่ยงภัย
โดยจากการรายงานของศูนย์ Command Center ภัยพิบัติกระทรวงคมนาคม มีโครงข่ายคมนาคมที่ได้รับผลกระทบสะสมรวม 144 แห่ง ผ่านไม่ได้ 11 แห่ง ได้แก่ ทางหลวง ได้รับผลกระทบ 67 แห่ง ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง ทางหลวงชนบท ได้รับผลกระทบ 76 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง และการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้รับผลกระทบ 1 แห่ง ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ทันที พร้อมทั้งเร่งให้นำของใช้และอาหารเพื่อช่วยเหลือยังพื้นที่ และเข้าร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีและเฝ้าระวังเหตุตลอดเวลา พร้อมทั้งให้ดำเนินการเร่งติดตั้งสะพานเบลีย์ในทุกพื้นที่อย่างเร่งด่วน เพื่อให้การสัญจรของพี่น้องประชาชนสามารถจราจรได้อย่างสะดวก ปลอดภัย
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า จากการรายงาน กรมเจ้าท่า (จท.) ได้นำของช่วยเหลือไปยังพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และพื้นที่อื่น ๆ ที่เกิดเหตุอุทกภัย รวมถึงเข้าร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงาน พร้อมที่จะดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมเฝ้าระวังเหตุอย่างใกล้ชิด
ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) ได้รายงานว่า ขณะนี้ได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นดำเนินการขุดขยายคอสะพาน บริเวณคลองน้ำไหล อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รฟท. จึงมีความจำเป็นต้องประกาศหยุดเดินขบวนรถท้องถิ่น 405/406 ศิลาอาสน์ – สวรรคโลก เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป
ด้านกรมท่าอากาศยาน (ทย.) รายงานว่า ขณะนี้ได้เข้าร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) ในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพร้อมเฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งได้นำของช่วยเหลือไปยังพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ และพื้นที่อื่น ๆ ที่เกิดเหตุน้ำท่วม
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า กรมทางหลวง (ทล.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วม และดินสไลด์ ในโครงข่ายทางหลวง (ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2567) ได้รับผลกระทบใน 3 จังหวัด รวม 8 แห่ง สามารถจราจรผ่านได้ 4 แห่ง และผ่านไม่ได้ 4 แห่ง โดยสถานการณ์น้ำท่วมและดินสไลด์เริ่มคลี่คลายแล้ว แต่ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวง แจกถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งติดตั้งสะพานเหล็กให้ประชาชนสามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ได้รายงานว่า ทช. ได้เตรียมความพร้อมเครื่องจักร วัสดุ พร้อมติดตั้งป้ายเตือนประชาชนในการสัญจรด้วยความระมัดระวังเป็นที่เรียบร้อย และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำหรับสถานการณ์ล่าสุด (ณ วันที่ 24 สิงหาคม 2567) พื้นที่ภายใต้การดูแลมีประสบอุทกภัย 5 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย น่าน แพร่ พะเยา สุโขทัย ได้รับผลกระทบ 18 สายทาง สามารถสัญจรได้ 3 สายทาง และสัญจรผ่านไม่ได้ 15 สายทาง ทั้งนี้ ทช. ยังคงเดินหน้าปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ความเป็นอยู่ทุกหลังคาเรือนและการเดินทางทุกพื้นที่กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดนั้น มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหลายแห่ง ซึ่งต้องฝ้าระวังบริเวณพื้นที่เสี่ยง ดังนี้ ภาคเหนือ 13 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด ประกอบด้วย เลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น และภาคใต้ 11 จังหวัด ประกอบด้วย ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล