ผู้ประกอบการคลินิกชุมชนอบอุ่น นำมาตัวเลขเงินล่าสุดในสมุดบัญชีมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวดู พร้อมระบุว่า จากทุน 3 ล้านบาท ยอดค่าใช้จ่ายรายหัวที่ได้รับจาก สปสช. ลดลงจากเดิม แต่รายจ่ายของคลินิกนั้นยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาวะขาดทุน จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คลินิกชุมชนอบอุ่นแห่งนี้ เตรียมที่จะยกเลิกสัญญาการเป็นคลินิกชุมชนอบอุ่นเดือนหน้า
เช่นเดียวกับผู้ประกอบการคลินิกชุมชนอบอุ่นบางคน ขณะนี้มีแนวโน้มต้องการออกจากระบบเช่นกัน หลังเผชิญปัญหาการค้างจ่ายเงินรายหัวของ สปสช. การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายกรณีส่งตัวผู้ป่วยต่อให้กับโรงพยาบาล
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้ถูกแก้ไข แต่อีกด้าน สปสช.เตรียมดำเนินการโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ใน กทม. ทางผู้ประกอบการคลินิกชุมชนอบอุ่นตั้งคำถามว่าจะเป็นโครงการที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่
ขณะที่ผู้มาใช้บริการคลินิกชุมชนอบอุ่นบางราย มีสิทธิบัตรทอง 30 บาท อยู่ที่ต่างจังหวัด ทำให้ต้องเสียค่ารักษาเอง แต่ก็เต็มใจ ซึ่งหากมีโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ใน กทม. เกิดขึ้นจริง จะทำให้สะดวกกับตนเองมากขึ้น
ด้านนายแพทย์พินัย ล้วนเลิศ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการแพทย์และสาธารณสุข กองทุนหลักประกันสุขภาพ กทม. ระบุว่า ปีงบประมาณ 2567 ตั้งแต่เดือน ตุลาคม จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ พบว่า เกือบทุกคลินิกชุมชนอบอุ่นมีหนี้เพิ่มขึ้นอีก 940 ล้านบาท เฉลี่ยคลินิกละ 3-4 ล้านบาท ซึ่งผู้รับผิดชอบหนี้เป็นผู้ประกอบการคลินิกฯ
และที่ผ่านมา ตั้งข้อสังเกตถึงการบริหารจัดการกองทุนของ สปสช. โครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ เป็นนโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศเดินหน้าอย่างเต็มที่
ซึ่งนายแพทย์จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. ระบุว่าในพื้นที่ กทม. จะเริ่มให้บริการวันที่ 26 สิงหาคมนี้ ประชาชนใช้บริการได้ที่ หน่วยบริการระดับปฐมภูมิ เช่น คลินิกชุมชนอบอุ่น และศูนย์บริการสาธารณสุข รวมถึงหน่วยปฐมภูมิของโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์เข้าร่วมด้วย
สำหรับโรงพยาบาลรัฐสังกัดอื่นๆ นั้น เป็นหน่วยบริการในระดับทุติยภูมิและตติยภูมิ ถือเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อที่จะต้องใช้ใบส่งตัวในการเข้ารักษา