วันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังผู้สื่อข่าวถามว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะควบตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมด้วยหรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า “คงไม่ครับ แค่นี้ก็หนักแล้ว” นักข่าวถามต่อเมื่อถามต่อว่า รมว.กลาโหม ควรเป็นทหารหรือพลเรือน “ไม่รู้ครับ แล้วแต่กรรมการดูว่ามีใครเหมาะสม ก็คงต้องเลือกกันอีกที“
ส่วนเมื่อถามว่ามุมมองต่อกองทัพในยุคของนายทักษิณและยุคนี้เป็นอย่างไรนั้น นายทักษิณกล่าวว่า วันนี้กองทัพสมัยใหม่ขึ้นเยอะ ส่วนจำเป็นจะต้องนำบทเรียนในอดีตมาป้องกันหรือไม่นั้น มองว่า “อดีตก็เป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้ แต่ปัจจุบันและอนาคตเป็นสิ่งที่ต้องวางรากฐานไว้ให้ลูกหลานและประเทศ”
เมื่อถามว่าได้เล็งใครไว้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมหรือไม่ เพราะมีการเอ่ยถึงพลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ ที่เป็นเพื่อนกับพลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ส่วนนี้นายทักษิณบอกว่ายังไม่ทราบอาจจะถูกเสนอมาจากพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้
เมื่อถามว่าตอนนี้ไว้ใจกองทัพต่อสถานการณ์การเมืองมากน้อยแค่ไหน ตนเองมองว่าสิ่งสำคัญรัฐบาลต้องทำหน้าที่ให้ประชาชนเป็นที่พอใจให้เร็วที่สุด นอกนั้นเป็นเรื่องทีหลัง สิ่งสำคัญต้องแก้ปัญหาประชาชน ปัญหาเร่งด่วนตอนนี้คือหนี้สิน
นักข่าวถามอีกว่ามีระเบิดเวลาลูกหนึ่งรออยู่นั่นคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จะกลับมาในยุคของ น.ส.แพทองธาร หรือไม่ นายทักษิณกล่าวว่า ”อันนั้นไม่ใช่ระเบิดเวลา ถ้ากลับก็กลับ มันมีกลไกของมันอยู่ อยู่ที่เรื่องกลไก“ นักข่าวถามต่อว่ากลไกต้องดีลหรือไม่ เพราะรอบท่าน ก็มีเรื่องของดีลลังกาวี นายทักษิณกล่าวว่า “ไม่มีดีล ไม่มีเลย กำลังเข้าใจผิดอย่างแรง ผมไม่มีดีลกับใคร ถ้ามีดีลต้องมีอะไรประหลาดๆออกมาแล้ว“
นักข่าวยังถามต่อ บทบาทของท่านปฏิเสธไม่ได้ ที่จะถูกมองเรื่องการครองงำพรรคเพื่อไทย นายทักษิณกล่าวว่า “ ไม่มีครอบงำหรอกครับ ครอบครองครับ“ นักข่าวต่ออีกว่าครอบครองนี่หนักกว่าหรือไหม ทักษิณกล่าวหัวเราะ และบอกว่า “ก็เป็นลูกสาวผมอะ”
ส่วนกังวลเรื่องการที่จะมีคนนำไปร้องเรียนหรือไม่นายทักษิณตอบว่า “สบายๆ อยากจะร้องก็ร้องให้ดัง”