คดีนี้เริ่มต้นเมื่อ 28 เม.ย. 67 หลังมีการแต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่ “เศรษฐา 1/2” ซึ่งมีนายพิชิตเป็นหนึ่งในรายชื่อ ก่อนมีการร้องเรียนว่าขาดคุณสมบัติ เนื่องจากเคยถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 6 เดือน ในคดีพยายามให้สินบนเจ้าหน้าที่ศาล จนในที่สุดวันที่ 15 พ.ค. มี สว. 40 คน ยื่นคำร้องให้ศาล รธน. วินิจฉัยถอดถอนนายกฯ เศรษฐา โดยศาลรับคำร้องและนัดอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้ (14 ส.ค.) เวลา 15.00 น.
จากคำแถลงปิดคดี 32 หน้าของนายเศรษฐา ได้ยกประเด็นสำคัญในการโต้แย้งคำร้องไว้ 4 ประเด็น ทั้งเรื่องการอ้างพยานบุคคลว่าคดีของนายพิชิตผ่านมานานกว่า 10 ปี, การแต่งตั้งไม่มีเจตนาไม่สุจริตแต่เพื่อเพิ่มนักกฎหมายใน ครม., สำนักเลขา ครม. ชี้ว่าการพิจารณาความผิดจริยธรรมร้ายแรงเป็นอำนาจของ ป.ป.ช., รวมถึงการแต่งตั้งนายพิชิตมาจากดุลยพินิจของนายเศรษฐาเอง ไม่ได้รับคำสั่งจากอดีตนายกฯ ทักษิณ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางกระแสการเคลื่อนไหวของนายเศรษฐาที่ยังเดินสายตรวจราชการตามปกติ และการวิเคราะห์ทางการเมืองจากหลายฝ่าย ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า นายเศรษฐาน่าจะรอดพ้นจากคดีนี้ หลังศาล รธน. เคยลงมติสนับสนุนในประเด็นรับคำร้องเอาไว้ถึง 3 ต่อ 9 เสียง วันนี้ต้องรอฟังคำวินิจฉัยของศาล รธน. ที่จะออกมาได้เพียง 2 แนวทาง คือ ยกคำร้องให้นายเศรษฐาทำหน้าที่ต่อไป หรือ ให้พ้นจากตำแหน่ง ก่อนต้องคัดเลือกนายกฯ คนใหม่จากแคนดิเดตที่พรรคการเมืองเสนอเท่านั้น