ดอกมะลิไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งวันแม่ แต่ยังมีบทบาทสำคัญในตำรับยาไทยและการดูแลสุขภาพ ช่วยผ่อนคลาย บรรเทาอาการต่างๆ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี
ดอกมะลิ: สื่อรักจากใจ สู่ตำรับยาไทย
ในวันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2567 ดอกมะลิสีขาวบริสุทธิ์และกลิ่นหอม ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ของความรักและการเคารพแม่ แต่ยังมีคุณค่าทางยาและการดูแลสุขภาพอย่างลึกซึ้ง นพ.ขวัญชัย วิศิษฐานนท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กล่าวถึงประโยชน์ของดอกมะลิในตำรับยาไทยที่น่าสนใจ
ยาหอมเทพจิตร: บรรเทาอาการวิงเวียนและส่งเสริมการนอนหลับ
ยาหอมเทพจิตร มีมะลิเป็นส่วนประกอบสำคัญ ช่วยบรรเทาอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ใจสั่น และส่งเสริมคุณภาพการนอนหลับที่ดี ปัจจุบันมีรูปแบบยาผงและยาเม็ด รับประทานง่าย แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่แพ้ละอองเกสรดอกไม้ และผู้ที่ใช้ยาในกลุ่มสารกันเลือดเป็นลิ่ม หรือยาต้านการจับตัวของเกล็ดเลือด ควรระมัดระวังในการใช้
ยาประสะจันทน์แดง: สู้ไข้ตัวร้อน
ยาประสะจันทน์แดง มีสรรพคุณช่วยลดไข้ บรรเทาอาการร้อนในกระหายน้ำ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก แต่ผู้ที่สงสัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก และผู้แพ้เกสรดอกไม้ไม่ควรใช้ หากใช้ยานี้ติดต่อกันเกิน 3 วันแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์
ดอกมะลิ: สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและความงาม
กลิ่นหอมเย็นของดอกมะลิ ช่วยผ่อนคลายความเครียด จึงมีการนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น สบู่ แชมพู ครีมทาผิว รวมถึงการใช้ในสุคนธบำบัด (การบำบัดด้วยกลิ่น) สปา เทียนอโรม่า น้ำหอม และน้ำมันนวด เพื่อช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและปรับสภาพจิตใจ
ดอกมะลิ: สร้างสรรค์เครื่องดื่มและอาหารคลายร้อน
ดอกมะลิ ยังนิยมนำมาทำเป็นเครื่องดื่มและอาหารที่ช่วยคลายร้อน แก้อาการอ่อนเพลีย เช่น ชาดอกมะลิ น้ำลอยดอกมะลิ ข้าวแช่ ขนมวุ้นดอกมะลิ และชาเบญจเกสร ซึ่งช่วยบำรุงหัวใจและผ่อนคลาย
ข้อควรระวังในการใช้ดอกมะลิ
การใช้ดอกมะลิควรระมัดระวัง ไม่ควรใช้ในปริมาณที่มากเกินไป เพราะกลิ่นที่แรงอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะได้ ที่สำคัญควรใช้ดอกมะลิที่สะอาด ปราศจากสารเคมี และสิ่งเจือปน
ดอกมะลิ ไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักในวันแม่ แต่ยังมีคุณค่าที่หลากหลาย ทั้งในตำรับยาไทย การดูแลสุขภาพ และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ดอกมะลิควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกใช้ดอกมะลิที่สะอาด ปราศจากสารเคมี เพื่อให้ได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงและปลอดภัย