นางนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ภายหลังได้รับคะแนน 19 เสียง ในการลงคะแนนเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคะแนนที่มอบให้กับพวกเรา ที่เป็นแรงผลักดันในการทำงานต่อไป และขอแสดงความยินดีกับประมุข ของ สว.คนใหม่ ทั้งประธานวุฒิสภา , รองประธานวุฒิสภาทั้งรองคนที่ 1 และรองคนที่ 2 ซึ่งเราคิดว่า ในอนาคตก็คงร่วมกันทำงานต่อไปในบทบาทของ สว. และจะผลักดันในสิ่งที่เป็นวิสัยทัศน์ แม้ว่าในกลุ่มของเราจะไม่ได้รับตำแหน่ง แต่ว่าวิสัยทัศน์ที่เราได้แถลงออกไปกับประชาชนก็อยากจะให้ทางประธานวุฒิสภา และประธานวุฒิสภา ที่หากเห็นว่าวิสัยทัศน์ด้านไหนเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ตนก็ยินดีมอบวิสัยทัศน์ให้เพื่อดำเนินการต่อไป เช่น การตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ให้กับประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งรังแกจากหน่วยงานรัฐ หรือว่า ในเรื่องของการเปิดพื้นที่ของสภาให้เป็นพื้นที่ของประชาชนได้เข้าถึง และสามารถที่จะเข้ามามีส่วนร่วมได้ วิสัยทัศน์ของเราเหล่านี้ไม่ได้มีลิขสิทธิ์ เรายินดีมอบให้กับผู้ที่ดำรงตำแหน่ง
ส่วนคะแนนเสียงที่ได้เพียง 19 คะแนน เป็นการสะท้อนอะไรหรือไม่ นางนันทนา กล่าวว่า สิ่งนี้อาจเป็นไปได้เพราะเรารวมกันตามอุดมการณ์ ไม่ได้มีลักษณะของการที่จะกำหนดกฎเกณฑ์ว่า จะต้องโหวตอย่างไร และส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของแนวคิดอุดมการณ์และตัวบุคคลที่ เรามองว่า เขาจะมอบคะแนนให้อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่เราคาด
เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเหมือนงูเห่าหรือไม่ สำหรับคนที่ไปโหวตให้ สว.กลุ่มสีน้ำเงิน นางนันทนา บอกว่า จะเห็นได้ว่า ครั้งนี้มีผู้ที่เสนอตัวขึ้นมาเป็นตำแหน่งต่างๆ หลายคน และก็รู้สึกเกินคาดว่า บางตำแหน่งมีการเสนอถึง 4 รายชื่อ ซึ่งจริงๆ ก็เป็นความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ที่มีผู้ที่เสนอตัวเข้ามา มาแสดงวิสัยทัศน์และมีการลงมติเลือกและที่สำคัญและดีไปกว่านั้น คือประชาชนได้ฟังวิสัยทัศน์ด้วย ประชาชนก็จะได้พิจารณาว่า วาระอันไหนที่เสนอออกไปแล้วน่าจะผลักดันต่อ ซึ่งส่วนนี้ก็ฝากไว้สำหรับผู้ที่ดำรงตำแหน่งด้วย
ส่วนผู้ที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนถึง 150 คะแนน จะสะท้อนอะไรหรือไม่ นางนันทนา บอกว่า สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มก้อนนี้มีอยู่จริง ซึ่งเราก็ไม่ได้รับการยืนยันมาตั้งแต่ต้น เพราะอย่างที่บอกไปว่า เราไม่สามารถพูดคุยได้ เพราะไม่มีใครมาแสดงตนกับเรา แต่การได้คะแนนมาเป็นกลุ่มก้อน ก็แสดงว่า สิ่งที่สื่อมวลชนรายงานมีอยู่จริง และเราก็ประจักษ์เป็นข้อมูลหลักฐานเชิงประจักษ์แล้ว
เมื่อถามถึงสิ่งที่ กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ จะทำต่อไป นางนันทนา บอกว่า เป็นเรื่องของงบประมาณที่รัฐบาลได้เพิ่มเติมมาในปี 2567 ซึ่งต้องมาพิจารณาต่อ รวมถึงผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระที่ค้างอยู่ ไม่ว่าจะเป็น อัยการสูงสุด ศาลปกครองสูงสุด ก็เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่จะต้องผลักดันกันต่อไปในวาระของสภา หรือสามารถหยิบยกเข้าไปในกรรมาธิการ หรือเป็นญัตติในสภาได้ เราก็จะเร่งผลักดัน
ส่วนเรื่องของการแบ่งสรรกรรมาธิการ แต่ละคณะ นางนันทนา บอกว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้ ย้ำว่า ไม่ได้มองกรรมาธิการที่มีผลประโยชน์ แต่มองกรรมาธิการที่จะสามารถผลักดันวาระของประชาชนให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่หนักใจของประชาชน ทั้ง เรื่องของการยกร่างรัฐธรรมนูญ เรื่องของกฎหมายนิรโทษกรรม สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราคิดว่า กรรมาธิการชุดใหม่สามารถที่จะผลักดันและขับเคลื่อนเรื่องนี้
ส่วนเรื่องของประธานกรรมาธิการ นางนันทนา บอกว่า ยังไม่ได้คุยกันชัด แต่มองว่า ในเรื่องของสัดส่วนเราก็ควรจะได้รับการจัดสรรบ้าง อาจจะไม่ได้เป็นลักษณะพรรคการเมืองที่มีการระบุจำนวนชัดเจน แต่อย่างน้อยกลุ่มของเรารวมกัน มีจำนวน มีตัวบุคคลชัดเจน น่าจะได้รับการจัดสรรและแบ่งปันกันมาบ้าง เพื่อให้เกิดความสมดุลในการทำงาน ซึ่งตรงนี้ในอนาคตต้อง สว. ทั้ง 200 คน จะต้องทำงานร่วมกัน เพราะต้องขับเคลื่อนวาระของประชาชนร่วมกัน
สำหรับชื่อของประธานและรองประธานวุฒิสภา ที่ออกมา ยอมรับว่า ไม่ได้เหนือความคาดหมาย เพราะเป็นไปตามที่สื่อรายงานตลอด และคะแนนที่มาก็ดูเหมือนว่าจะชัดเจนแล้วว่า ไม่ได้หลุดไปจากสิ่งที่สื่อได้รายงานข่าวและเจาะข้อมูลมา