นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (3 กรกฎาคม 2567) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเร่งด่วน โดยเน้นย้ำนโยบาย “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” ถือเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากการแพร่ระบาดของยาเสพติดโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ส่งผลกระทบต่อกำลังสำคัญของชาติ
นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ ร่วมดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมาย “ปราบปราม รักษา ฟื้นฟู ดูแล” โดยกำชับให้คณะรัฐมนตรีสนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม มอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ ร่วมกับตำรวจ สำนักงาน ป.ป.ส. หน่วยงานรัฐ และภาคประชาชน โดยให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเสนาธิการกำหนดเป้าหมายและ KPIs ที่ท้าทาย พร้อมทั้งมาตรการที่เหมาะสมสำหรับแต่ละจังหวัด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการให้ 1) ทำการ X-ray พื้นที่ ด้วยการตรวจปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไปทุกคนในทุกหมู่บ้าน 2) แยกผู้เสพออกมาบำบัดรักษา และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขยายผลจับกุมผู้ค้า 3) กระทรวงสาธารณสุขแยกแยะผู้เสพตามระดับความรุนแรงเพื่อบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชนเมื่อพร้อม โดยกระทรวงต่างๆ ร่วมจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ 4) เมื่อส่งผู้เสพคืนชุมชน ต้องมีการฝึกอาชีพ หางานให้ทำ เพื่อสร้างรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต โดยให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมดูแล 5) เร่งหามาตรการที่เหมาะสมเพื่อป้องกันผู้เสพรายใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน และขอให้โรงเรียนร่วมปลูกฝังค่านิยมใหม่ “เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด”
จากการทำงานร่วมกันของหน่วยงานรัฐบาลตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง 2 กรกฎาคม 2567 สามารถตรวจยึดยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก อาทิ ยาบ้า 764 ล้านเม็ด ไอซ์ 15.208 ตัน เฮโรอีน 1.275 ตัน โดยมีคดียาเสพติดรวมทั้งสิ้น 177,121 คดี ผู้ต้องหา 184,411 คน ยึดและอายัดทรัพย์สินได้กว่า 6,347.07 ล้านบาท นอกจากนี้ รัฐบาลยังให้การบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติดกว่า 108,304 ราย พร้อมทั้งดำเนินการป้องกันในหมู่บ้านและชุมชนไปแล้วกว่า 15,804 แห่ง