คัดลอก URL แล้ว
“ทนายตั้ม” บุก ตร. ยื่นหนังสือเร่งรัดคดี ผบ.ตร. รับส่วย

“ทนายตั้ม” บุก ตร. ยื่นหนังสือเร่งรัดคดี ผบ.ตร. รับส่วย

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เพื่อให้กำชับเร่งรัดการสอบสวนคดีความ ที่ก่อนหน้านี้ตนเองได้ไปยื่น ที่ สถานีตำรวจนครบาล (สน.) เตาปูน เนื่องจากพบว่ามีข้อมูลหลักฐาน การรับเงินจากบัญชีม้าเว็บพนันออนไลน์ของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ ครอบครัว

นายษิทรา กล่าวว่า เนื่องด้วยคดีที่สน.เตาปูนไม่มีความคืบหน้า ไม่มีการเรียกใครไปแจ้งข้อกล่าวหาทั้งที่เส้นทางการเงินในบัญชีเห็นชัดเจนว่ามีการโอนเงินเข้าบัญชีคนในครอบครัวของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ประเด็นนี้ตนอยากถามนายกรัฐมนตรีด้วยว่ากำลังทำอะไรอยู่ทั้งที่รู้ว่า ผบ.ตร.ถูกดำเนินคดีรับเงินคดีเว็บพนัน แต่กลับไม่มีการทำอะไรและอนุญาตให้กลับมาทำหน้าที่เหมือนเดิม

อีกทั้งตนอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อขัดแย้งที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้น เชื่อว่าประชาชนอยากรู้ว่าการใช้เวลา 3 เดือนในการตรวจสอบผลตรวจสอบเป็นอย่างไร ประชาชนไม่ได้อยากรู้ใครทะเลาะกับใครประชาชนต้องการรู้ว่าใครผิดหรือใครถูกมั่นใจว่าทางคณะกรรมการต้องมีการเอื้อประโยชน์ให้กับ ผบ.ตร.

นายษิทรา กล่าวต่อว่า การที่สน. เตาปูนไม่มีการดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา
แน่นอนว่าพนักงานสอบสวนจะต้องมีความเกรงกลัวเพราะผู้ที่เขาจะต้องดำเนินคดีคือผู้บังคับบัญชาระดับสูงในสำนักงานตำรวจทั้งที่ อยู่ในระหว่างการสอบหาข้อเท็จจริง ขณะที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ต้องถูกออกจากราชการชั่วคราวแต่ผบ.ตร.ได้กลับมาทำงานปกติ

ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าพยานหลักฐานเห็นชัดเจนควรจะเรียกผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีได้แล้ว เชื่อว่าถ้าเป็นประชาชนธรรมดาคดีนี้คงจะมีการดำเนินคดีไปแล้ว

เมื่อถามว่าหนังสือ ขอให้เร่งรัดในวันนี้จะถูกส่งถึงผู้บังคับบัญชาหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ตนมาร้องตามสิทธิ์ ต้องตามดูว่าจะมีการสั่งการอย่างไรหลังจากที่ตนได้มีการทำหนังสือฉบับนี้จะมีข้อสั่งการหรือผบ.ตร.จะเงียบหลบสื่อ

ส่วนที่สังคมสงสัยว่าตนออกมาเรียกร้องเดินหน้าต่างๆเป็นการทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่ นายษิทรากล่าวว่าถ้าตนจะทำเพื่อพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็คงไปดำเนินคดีกับพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่ลงนามคำสั่งออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว

นายษิทรายังกล่าวอีกว่า การดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรีหากพบว่า มีพยานหลักฐานโดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่ชัดเจน และยังคงดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต่อไป ก็อาจทำให้องค์กรตำรวจเสื่อมเสีย และเป็นเหมือนกันไม่ไม่เห็นหัวประชาชนที่นายกจะสามารถแต่งตั้งใครขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็ได้โดยที่ไม่ตรวจสอบมาก่อน หรือขึ้นอยู่กับดีล ดังนั้นพลตำรวจเอกต่อศักดิ์จึงควรลาออกจากตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ ในการเดินทางมายื่นคำร้องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ นายษิทราได้นำรถยนต์ส่วนตัวไปจอดในที่จอดรถของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เมื่อนักข่าวถามว่าเหตุใดจึงนำรถส่วนตัวไปจอดในรถของผู้บังคับบัญชา นายษิทรากล่าวว่า เห็นว่าที่จอดรถว่างอยู่จึงนำรถตัวเองเข้าไปจอดเฉย ๆ

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้วจะไม่มีการอนุญาตให้รถยนต์ของประชาชนทั่วไปเข้าไปจอดในช่องจอดรถยนต์เฉพาะสำหรับผู้บังคับบัญชา โดยหากมีการประสานงานมาล่วงหน้า เจ้าหน้าที่จะจัดที่จอดรถในอีกพื้นที่ให้ ซึ่งไม่ใช่ช่องจอดเฉพาะของผู้บังคับบัญชา


ข่าวที่เกี่ยวข้อง