เชียงใหม่, 21 มิถุนายน 2567 – จากรายงานของระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) ปี 2566 พบว่า จังหวัดเชียงใหม่มีจำนวนคนจนมากที่สุดในประเทศไทย โดยมี “คนจนเป้าหมาย” ถึง 15,605 คน สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความยากจนที่ยังคงเป็นความท้าทายสำคัญของจังหวัด
นายถนอม กรรมใจ นายกเทศมนตรีตำบลยางคราม อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า แม้จะมีการใช้เกณฑ์ประเมินจากข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน (จปฐ.) และการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังมีประชาชนจำนวนมากที่แม้ผ่านเกณฑ์แต่ยังไม่พ้นความยากจน โดยสาเหตุหลักมาจากปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ส่งผลให้เกิดภาวะหนี้สิน
ในขณะเดียวกัน แม้ในเขตเมืองเชียงใหม่จะไม่มี “คนจนเป้าหมาย” ตามรายงาน TPMAP แต่สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) พบว่ามีกลุ่มคนจนเมืองกว่า 2,000 ครอบครัวที่ประสบปัญหาที่อยู่อาศัยและรายได้ต่ำ
นายสุทธิพร พลเมฆ แกนนำชุมชนคลองเงิน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า หลายครอบครัวพยายามส่งเสริมการศึกษาบุตรหลานเพื่อโอกาสในการมีงานที่ดีในอนาคต สอดคล้องกับคำบอกเล่าของนางชลอ ประทุมเมฆ ชาวชุมชนคลองเงิน
ทั้งนี้ รายงาน TPMAP ใช้ดัชนีความยากจน 5 มิติ ได้แก่ สุขภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา รายได้ และการเข้าถึงบริการรัฐ โดยจังหวัดที่มีคนจนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เชียงใหม่ อุดรธานี บุรีรัมย์ เชียงราย และนครศรีธรรมราช ตามลำดับ
สถานการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาความยากจนและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และทั่วประเทศ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืน