นายอนุพร อรุณรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และการตำรวจ วุฒิสภา กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการฯ กำลังเสนอต่อสภาทนายความฯ เพื่อขับเคลื่อนให้มีโครงการอาสาสมัครทนายความประจำตำบล หรือ 1 ตำบล 1 อาสาสมัครทนายความ ขึ้น สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการกฎหมายที่ตนเป็นที่ปรึกษาได้ลงพื้นที่ไปศึกษาและตรวจสอบ “โครงการทนายความอาสาประจำประจำสถานีตำรวจ” ที่เกิดขึ้นจากการผลักดันการปฏิรูปกฎหมายในครั้งรัฐบาลชุดที่แล้วนั้น ประสบความสำเร็จอย่างมาก และเป็นที่ต้องการของประชาชนซึ่งพบว่าประชาชนต้องการเข้าถึงกฎหมายให้มากขึ้น โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน และกฎหมายอื่น ๆ ในพื้นที่ห่างไกลชายขอบ ซึ่งประชาชนต้องการที่จะเข้าถึงกระบวนการกฎหมายเพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการที่จะนำมาใช้ไตร่ตรองในเรื่องต่างๆ
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาของคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ และผลักดัน “โครงการอาสาสมัครทนายความประจำตำบล 1 ตำบล 1 ทนายความ” ให้เกิดขึ้น เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการเข้าถึงกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมต่อไป
“ตลอด 1 ปี 5 เดือน ที่อยู่ในวาระในฐานะสมาชิกวุฒิสภา ได้ลงพื้นที่ไปฟังความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการเข้าถึงกฎหมายของพี่น้องประชาชน บริเวณชายแดนชายขอบทุกภาคของประเทศไทย พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต้องการเข้าถึงกฎหมายให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจและสามารถนำไปใช้แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ รวมถึงได้ร่วมกับเพื่อนวุฒิสมาชิก กลั่นกรองกฎหมายสำคัญผ่านรัฐสภา เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่..) พ.ศ. … ที่มีนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้จัดเสวนาให้ความรู้กับภาคประชาชนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และร่วมออกกฎหมายสมรสเท่าเทียมได้สำเร็จ รวมทั้งพิจารณากฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปีและกฎหมายสำคัญอีกหลายฉบับ ซึ่งทั้งหมดนั้น ถือว่าตนเองได้ทำหน้าที่วุฒิสมาชิกอย่างสมบูรณ์แล้ว โดยเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อขับเคลื่อนงานในฐานะสภาสูงอย่างมีคุณภาพ ยึดประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง“ นายอนุพร กล่าวย้ำ