วันที่ 20 มิถุนายน 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม ร่วมแถลงความคืบหน้า คดีการตรวจยึดเรือบรรทุกน้ำมันของกลางที่หลบหนีออกไปจากท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบ
พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปราม เปิดเผยการสืบสวนกรณีน้ำมันเถื่อนว่า อยู่ในความรับผิดชอบของ บก.ปอศ. และสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งเป็นภาคส่วนที่รับผิดชอบ เพราะเป็นคดีอาญา นอกราชอาณาจักร โดยในส่วนของกองบังคับการปราบปราม มีการสืบสวนขยายผล เพื่อรวบรวมหลักฐานไปสนับสนุนคดีน้ำมันเถื่อนที่ บก.ปอศ. รับผิดชอบอยู่ ซึ่งหากมีความคืบหน้าในส่วนของคนที่เกี่ยวข้องอย่างไร ก็จะส่งให้ พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. และพนักงานอัยการสูงสุด ได้พิจารณาต่อไป
ส่วนคดีเรือหาย กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้รับผิดชอบ ล่าสุดได้นำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลอาญา 8 คน รวมถึงการขยายผลจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำเรือทั้ง 3 ลำไปขาย ขณะนี้มีข้อมูลหลักฐานที่บ่งชี้ว่าคนที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง รวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการให้เรือ 3 ลำนี้ออกไปจากท่าเรือด้วย โดยทางกองบังคับการปราบปราม กำลังขอหมายศาลเพื่อจับกุม
ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งให้รวบรวมสำนวนจากทุกส่วน เพื่อมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่ามีการกระทำให้เกิดการทุจริตขึ้นหรือไม่ ไม่ใช่เพียงความผิดตามมาตรา 157 เพียงอย่างเดียว พร้อมย้ำว่า ทุกอย่างที่ทำเพื่อรักษาองค์กร ไม่ให้ถูกตราหน้า ว่าเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย แต่ไม่สามารถดูแลเรือที่ตรวจยึดมาได้ ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ดำเนินการ เป็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตรงไปตรงมา แม้กระทั่งยึดเรือที่ได้ ก็ให้เจ้าหน้าที่รายงานออกไปตามความจริง ถึงจำนวนเรือและจำนวนน้ำมันที่เหลือ
แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ภูมิใจอย่างหนึ่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า ยังสามารถติดตามเรือที่หายไปกลับมาได้ พร้อมกับของกลาง โดยความพยายาม ประสานงานของผู้บังคับบัญชา และภาคีเครือข่าย
ส่วนรูปแชทหลุดของ “เสี่ยโจ้” เจ้าของธุรกิจค้าน้ำมัน ที่พูดคุยกับตำรวจน้ำ ยศผู้กำกับ อักษร ย่อ น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เชื่อว่า เป็นแชทจริง แต่ต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นใคร มียศเล็กหรือยศใหญ่ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทุกคน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังยืนยันว่า ตนแค่รับหน้าที่มาตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ เพราะเมือได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาก็ต้องทำให้ดีที่สุด ไม่มีผลประโยชน์เกี่ยวข้อง และไม่จำเป็นต้องเอาตัวไปเจ็บกับเรื่องนี้