สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปยังเกาหลีใต้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยลดลงถึง 21.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว สวนทางกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมที่เพิ่มขึ้น 86.9%
ข้อมูลจากองค์การท่องเที่ยวเกาหลี (Korea Tourism Organisation) ระบุว่า มีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางมาเที่ยวเกาหลีใต้ 119,000 คน ระหว่างเดือนมกราคม-เมษายน 2567 ซึ่งถือว่าต่ำกว่าอัตราการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวมที่ 88 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโรคโควิด-19
ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวชี้ว่า สาเหตุหลักของการลดลงนี้มาจากความเข้มงวดในการตรวจคนเข้าเมืองของเกาหลีใต้ และระบบ K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ซึ่งกำหนดให้นักท่องเที่ยวจาก 112 ประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า ต้องลงทะเบียนและขออนุมัติเข้าประเทศออนไลน์ก่อนเดินทาง
มีรายงานว่านักท่องเที่ยวไทยหลายรายถูกปฏิเสธการเข้าประเทศ แม้จะได้รับอนุมัติ K-ETA แล้วก็ตาม สร้างความไม่พอใจและความกังวลให้กับนักท่องเที่ยวไทย จนเกิดกระแส #แบนเกาหลี ในโลกออนไลน์
การลดลงของนักท่องเที่ยวไทยส่งผลให้ไทยตกจากอันดับหนึ่งของชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเกาหลีใต้มากที่สุดในปี 2562 มาอยู่อันดับสามในปีนี้ ตามหลังเวียดนามและฟิลิปปินส์
ขณะที่กระทรวงยุติธรรมเกาหลีใต้ยืนยันว่ามาตรการ K-ETA มีความจำเป็นเพื่อป้องกันการเข้าเมืองผิดกฎหมาย และไม่ได้เป็นการเลือกปฏิบัติต่อคนไทย แต่หน่วยงานด้านการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์นี้ และกำลังพิจารณาแนวทางแก้ไขเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยกลับมา
ล่าสุด เกาหลีใต้เตรียมออก “Hallyu Visa” วีซ่าพิเศษสำหรับผู้ที่สนใจวัฒนธรรมเกาหลี (K-Pop, K-Culture) ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ โดยหวังว่าจะสามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวจากประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ได้
