เข้าสู่วันที่ 4 ของการติดตามเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำที่หายไป โดย พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ และคณะ ได้เดินทางไปยังกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เพื่อหารือและขอความร่วมมือในการติดตามเรือดังกล่าว ซึ่งผลการหารือพบว่า เรือทั้ง 3 ลำไม่ได้อยู่ในประเทศกัมพูชา และคาดว่าได้หลบหนีไปยังประเทศที่ 3 แล้ว แต่ยังไม่มีข้อมูลว่ามีการถ่ายน้ำมันหรือทำลายเรือหรือไม่
พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เคลื่อนย้ายเรือของกลางอีก 2 ลำ พร้อมลูกเรือ 5 คน ที่ยังจอดเทียบท่าอยู่ไปจอดที่อื่นแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวว่าการหลบหนีของเรือทั้ง 3 ลำ อาจมีการติดสินบนเพื่อปล่อยเรือ แต่พล.ต.ต.จรูญเกียรติ มองว่าเป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย และไม่น่าใช่ความพยายามติดสินบน แต่เป็นเรื่องที่ตำรวจไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งหากพบว่ามีการติดสินบนจริงก็จะดำเนินการจัดการอย่างเต็มที่
ทีมข่าวยังได้สัมภาษณ์น้องชายของนายสหชัย หรือ โจ้ ปัตตานี เจ้าของเรือน้ำมัน 3 ลำที่หายไป ซึ่งให้ข้อมูลว่าตนเองไม่ได้ติดต่อกับพี่ชายมาหลายปีแล้ว และไม่ทราบเกี่ยวกับธุรกิจน้ำมันของพี่ชาย ส่วนเรือของกลางอีก 2 ลำที่จอดอยู่ที่ท่าเรือตำรวจน้ำสัตหีบนั้น เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ใช่ของตน และยังสงสัยว่าใครเป็นคนให้ข้อมูล จึงขอให้ช่วยให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย
