ท่ามกลางสถานการณ์ราคาสินค้าในประเทศที่ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ประชาชนประสบปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นสวนทางกับรายได้ที่เกิดขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่นจึงได้ปรับมาตรการโดยการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ที่มีรายได้ประจำ เช่น พนักงานบริษัท โดยลดหย่อนเงินได้ 30,000 เยน และลดภาษีถิ่นที่อยู่อีก 10,000 เยน ต่อคน ซึ่งผู้เสียภาษีที่อยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว สามารถใช้สิทธิลดหย่อนร่วมกับบุคคลในครอบครัวเดียวกันได้ เช่น ครอบครัวที่ประกอบด้วยพ่อ, แม่ และลูก 2 คน สามารถใช้สิทธิลดภาษีเงินได้ลง 120,000 เยน และลดภาษีถิ่นที่อยู่อีก 40,000 เยน รวมเป็น 160,000 เยน
โดยแนวนโยบายนี้เป็นแนวทางที่จะช่วยทำให้ประชาชนมีเงินเหลือในกระเป๋ามากยิ่งขึ้น และทางรัฐบาลคาดหวังว่า ประชาชนจะนำเงินที่เหลือมากขึ้นมาใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้มากยิ่งขึ้น
ทางด้านของชาวญี่ปุ่นบางส่วนมองว่า มาตรการที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่าจะช่วยให้มีเงินเหลือในกระเป๋ามากยิ่งขึ้น แต่ในภาพรวมนั้น รายได้จากเงินเดือนก็ยังคงไม่ปรับขึ้นได้ทันกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น การประหยัดเงินในกระเป๋าจึงยังคงมีความจำเป็น ซึ่งนั่นก็ทำให้หลายฝ่ายมองว่า นโยบายที่เกิดขึ้นนี้ อาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเห็นผล ในขณะที่ภาคเอกชนมีความกังวลต่อการปรับลดหย่อนภาษีที่เกิดขึ้นนี้ ว่าจะสามารถปรับแก้ไขระบบบัญชีในการคำนวนการลดหย่อนภาษีได้ทันหรือไม่
ด้านนายกรัฐมนตรีคิชิดะ ระบุว่า การใช้นโยบายลดภาษีที่เกิดขึ้นนี้ จะทำให้ประชาชนได้เห็นตัวเลขรายรับที่มากขึ้น ปรากฎให้เห็นได้ในสลิปเงินเดือนของทุกคน และนอกจากนี้ ก็ยังคงเดินหน้านโยบายสำคัญ โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราค่าจ้าง ที่มุ่งหวังจะให้มีการปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นให้ได้
ที่มา – https://www3.nhk.or.jp/news/html/20240601/k10014467631000.html