นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ว่า สิ่งแรกคงต้องมองว่าที่ผ่านมาที่มีข้อท้วงติง ในเรื่องปัญหาด้านกฎหมายต่างๆมาตลอดคืออะไร แสดงว่าสิ่งที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่าพรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมายที่จะให้คำแนะนำในเรื่องกระบวนการต่างๆ เพื่อผลักดันนโยบายยังขาดแคลน เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกต้อง และสุดท้ายอาจจะเรียกได้ว่า ไม่รู้จะเอาใครจึงต้องไปยืมมือ นายวิษณุ มาทำงาน เช่นเดียวกับรัฐบาลของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ทำให้มีคำถามว่า ที่บอกว่ามีความพร้อมจะบริหารงานและประเทศคืออะไร ซึ่งกรณีนี้เป็นเหมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิม และยังสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลของนายเศรษฐา ขาดความเป็นเอกภาพและความพร้อมในการบริหารงาน จึงต้องไปยืมมือ นายวิษณุ ซึ่งเคยมีส่วนช่วยเหลือ พลเอกประยุทธ์ กลับมาช่วยในหลายโอกาส ซึ่งไม่ควรเป็นเช่นนี้
พร้อมย้ำว่า ”เรื่องมือกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญอยู่แล้ว เป็นเรื่องใหญ่ และอาจเกิดคำถามว่าที่ผ่านมา ปัญหาเรื่องข้อกฎหมายมีอยู่หรือเปล่า และผมคิดว่าที่เป็นเรื่องใหญ่คือ รัฐบาลคุณเศรษฐา และคุณเศรษฐา วิพากษ์วิจารณ์อาจารย์วิษณุในหลายโอกาส พอถึงเวลาทำเหมือนเรื่องเหล่านี้ไม่เคยเกิดขึ้น กลายเป็นว่าเป็นเรื่องของความไม่ใช่เรื่องของคน ซึ่งผมคิดว่าเป็นวิธีการที่หลบเลี่ยงกันไป สุดท้ายเอาเข้าจริงอาจจะไม่ใช่เรื่องกฎหมายภายใต้การปฏิบัติงานของครม. กลายเป็นว่าจุดสุดท้ายจริงๆอาจเป็นเรื่องที่คุณเศรษฐา ถูกดำเนินคดีหรือเปล่า ตัวเองกำลังถูกดำเนินคดี และถูกแขวนอยู่บนศาลรัฐธรรมนูญหรือเปล่า ผมพูดแบบนี้ไม่ได้บอกว่ากำลังสนับสนุนสิ่งที่คุณเศรษฐา กังวลนะครับ ผมก็ยังคิดว่าการเมืองควรแก้ด้วยการเมือง แต่ปัญหาคือว่าจุดนั้นรึเปล่าที่มีความพยายามจะเชิญให้อาจารย์วิษณุ กลับมามันอาจจะเป็นเรื่องนี้หรือเปล่า และผมเชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยที่ตั้งคำถามการที่อาจารย์วิษณุเข้ามาอาจจะมีภารกิจเพื่อให้คุณเศรษฐา รอดจากศาลรัฐธรรมนูญ“
นอกจากนี้ นายรังสิมันต์ กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วนตัวไม่แน่ใจว่านายวิษณุ จะทำงานได้ขนาดไหน เพราะสุขภาพไม่ดีมากๆ ดังนั้นจึงตอบไม่ได้ว่าช่วยได้ 100% หรือไม่ และสิ่งหนึ่งทำให้เห็นว่านายเศรษฐาอาจจะไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงต้องไปยืมมือเนติบริกร ที่มีผลงานมาหลายรัฐบาล ”หรือพูดง่ายๆ ว่าการันตี ของแทร่“
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบกับเครดิตต่อตัวพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐาในการเลือกตั้งสมัยหน้าหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ต้องถามว่านายเศรษฐา มีเครดิตมากแค่ไหน เพราะสังคมมองว่าที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จับมือกับหลายพรรคการเมืองที่ร่วมงานกับพลเอกประยุทธ์มาก่อน และวันนี้ก็ยังตั้งนายวิษณุ เป็นที่ปรึกษาของนายกฯ ซึ่งมีบทบาทเสมือนรองนายกฯ ทำให้รู้สึกว่ารัฐบาลวันนี้ไม่ได้ต่างจากรัฐบาลเดิมเท่าไหร่ และต้องย้อนกลับไปถามว่า ที่เคยพูดว่าพร้อมในการบริหารงานพร้อมจริงหรือไม่
ส่วนจะกลายเป็นผลดีให้กับพรรคก้าวไกลหรือไม่นั้น ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น เพราะพรรคก้าวไกลโฟกัสเรื่องการทำงาน และพยายามทำหน้าที่ในทุกจุดอย่างเต็มที่ โดยไม่ได้รอว่าใครก้าวพลาด ถ้าพิสูจน์มาแล้วว่าทำงานเป็นประโยชน์ ก็ดีต่อเราทั้งระยะสั้นและยาว