คณะกรรมาธิการอุตสาหกรรม เชิญปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรมเมืองแร่ กรมควบคุมมลพิษ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหารือถึงความคืบหน้าการดำเนินการ เคลื่อนย้ายกากแคดเมียม รวมถึงเพลิงไหม้ในโกดังที่มีวัตถุอันตราย ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
หลังการประชุม นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎรเปิดเผยว่า การเคลื่อนย้ายกากแคดเมียมกลับไปที่บ่อบำบัดจังหวัดตาก ดำเนินการแล้วร้อยละ 14 ใช้ตู้คอนเทนเนอร์ขนย้าย จะขนย้ายให้เสร็จจำนวน 1,806 ตัน ภายในวันที่ 16 มิถุนายน ฝังกลบให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน พร้อมยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จึงขอให้ประชาชนอุ่นใจ ส่วนการคืนพื้นที่ขณะนี้สามารถคืนพื้นที่กรุงเทพฯได้แล้ว โดยกรมควบคุมมลพิษลงไปตรวจสอบ พบว่าปราศจากโลหะแคดเมียมที่เป็นโลหะอันตราย ถือว่าปลอดภัยแล้ว
ขณะที่การดำเนินคดีกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน 4 มูลฐานความผิดคือ การนำปฏิกูลหรือวัตถุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต แจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ปี 2560
สำหรับการดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่รัฐ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ได้มีมติรับเรื่องสอบสวนหาผู้กระทำความผิดแล้ว โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ จะเป็นผู้รวบรวมหลักฐาน
ที่ประชุมยังได้พิจารณากรณีเพลิงไหม้ในโกดังที่มีวัตถุอันตราย ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยผู้เกี่ยวข้องได้ชี้แจงว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 120 วัน รวมถึงได้ออกหมายจับผู้เช่าโกดังแล้ว ขณะเดียวกันยังได้ให้เฝ้าระวังโกดังที่ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นโกดังเก็บกักกากของเสีย แต่มีปริมาณมากกว่าที่ อ.ภาชี ดังนั้นจึงกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำรอยไฟไหม้ ที่ อ.มาบตาพุด จ.ระยอง และ อ.ภาชี