คัดลอก URL แล้ว
‘อมธ.’ ผนึก 45 องค์กรนักศึกษา ไว้อาลัย ‘บุ้ง ทะลุวัง’

‘อมธ.’ ผนึก 45 องค์กรนักศึกษา ไว้อาลัย ‘บุ้ง ทะลุวัง’

วานนี้ (14 พฤษภาคม) องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเพื่อไว้อาลัยแก่การจากไปของ เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง นักกิจกรรมทางการเมืองวัย 28 ปี เมื่อช่วงสายของวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยระบุรายละเอียดว่า แถลงการณ์ร่วมขององค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เครือข่ายองค์กรนักศึกษา 45 องค์กร 10 มหาวิทยาลัย และภาคประชาชน เพื่อไว้อาลัยแด่การจากไปของบุ้ง เนติพร นักกิจกรรมกลุ่มทะลุวัง และประณามความล้มเหลวในกระบวนการยุติธรรมไทย

ในการนี้เครือข่ายองค์การนักศึกษาขอประณามความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม และการกระทำของรัฐที่ได้กระทำนิติสงคราม โดยละเลยหลักนิติธรรมและหลักการพื้นฐานของกฎหมายอย่างหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ เนื่องจากเนติพรเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา และศาลยังไม่ได้พิพากษาว่ามีความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

แต่องคาพยพในกระบวนการยุติธรรมกลับปฏิบัติดังเช่นอาชญากร สั่งคุมขังและถอนการประกันตัวโดยไม่มีเหตุอันควร ละเมิดสิทธิการประกันตัวอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ถูกบัญญัติไว้ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง หรือแม้กระทั่งในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

อีกทั้งขอเรียกร้องต่อรัฐบาลให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ทบทวนการบังคับใช้กฎหมายภายใต้หลักนิติธรรม และให้ความสำคัญกับการจัดทำ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมถึงคดีทางการเมืองทุกคดี ไม่เว้นแต่คดีตามกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อเป็นหลักประกันว่าความสูญเสียอันเกิดจากมูลเหตุคดีทางการเมืองที่ไม่ควรเกิดขึ้นในครั้งนี้ แม้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่จะต้องเป็นครั้งสุดท้าย และคืนความยุติธรรมให้กับผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองทุกคน

อย่างไรก็ดี การดำเนินคดีทางการเมืองกับผู้เห็นต่างนั้น ไม่ใช่วิถีทางแห่งประชาธิปไตย ประเทศไทยจะพัฒนาก้าวหน้าได้ สังคมต้องมีพื้นที่แสดงออกและวิพากษ์วิจารณ์ การพยายามปิดกั้นความยุติธรรมที่ควรได้รับนั้นเสมือนระเบิดเวลาความขัดแย้งระลอกใหม่ของสังคมไทย

สุดท้ายนี้ ขอให้ความสูญเสียในครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญแก่รัฐและสังคมว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐจะอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชนโดยยึดถือหลักการทางกฎหมายที่ถูกต้อง และถึงเวลาแล้วที่สังคมจะลดอคติที่นำหลักการและเหตุผล ลดอคติที่มีต่อผู้ที่เห็นต่างจากตนเอง จนเสมือนเป็นใบอนุญาตในการพรากชีวิตผู้เห็นต่างทางการเมืองโดยรัฐ

อ้างอิง:

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=853798420121805&id=100064749637069&rdid=raHx0f2LOvCRAsj1&share_url=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fshare%2Fp%2FW37DF5tAeS3Lnc76%2F