ความคืบหน้าคดีของนายโรห์ อึน จง อายุ 34 ปี หนุ่มเกาหลีถูกสองเพื่อนร่วมชาติฆ่าเอาร่างยัดใส่ถัง 200 ลิตร แล้วโบกปูนถ่วงน้ำที่อ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
ล่าสุดที่ สน.มักกะสัน เวลา 13.20 น. ญาติของผู้เสียชีวิต 2 คน ที่บินมาจากเกาหลีใต้มาถึงที่โรงพักแล้ว พร้อมกับเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย 3 คน โดยเมื่อมาถึงได้เดินเข้าไปในห้องสอบสวนทันที และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน ประกอบกับเจ้าหน้าที่สถานทูตได้ขอความร่วมมือไว้ก่อนหน้านี้
ซึ่งจากการสังเกตพบว่า พี่สาวของผู้เสียชีวิต และลูกพี่ลูกน้อง มีสีหน้าเคร่งเครียด และเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด จากนั้นทั้งหมดได้เดินเข้าห้องของพนักงานสอบสวน เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ทำการตรวจเก็บดีเอ็นเอ เพื่อพิสูจน์เทียบกับอัตลักษณ์ของศพผู้เสียชีวิต เป็นการยืนยันว่าคือนายโรห์ อึน จง จริง ก่อนจะนำไปสู่การออกหมายจับ 3 คนร้าย และรับร่างของผู้เสียชีวิตกลับประเทศ
จากนั้นเวลา 14.00 น. พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีชาวเกาหลีถูกแก๊งเพื่อนร่วมชาติอุ้มรีดค่าไถ่ 3,000,0000 บาท ก่อนถูกฆ่ายัดถังถ่วงทิ้งอ้างเก็บน้ำเมืองพัทยาที่ สน.มักกะสัน
ต่อมาเวลา 16.00 น.วันที่ 12 พ.ค. ที่ห้องประชุม สน.มักกะสัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 , พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รองผบก.น.5 , พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รองผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าว และเครื่องมือพิเศษบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.อุรัมพร ขุนเดชสัมฤทธิ์ ผกก.สน.มักกะสัน , พ.ต.อ.วชิรากรณ์
วงศ์บุญ ผกก.สน.คลองตัน , ชุดสืบสวนนครบาล , ชุดสืบสวนบก.น.5 , ชุดสืบสวนสน.คลองตัน , ชุดสืบสวนสน.มักกะสัน ร่วมประชุมความคืบคดีกว่า 2 ชั่วโมง
โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวภายหลังการประชุมว่า วันนี้มีการประสานญาตินายโรห์ อึง จง เพื่อมาพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลที่พบศพเมื่อคืนนี้ หลังเมื่อวันที่ 7 พ.ค. รับแจ้งจากแม่ของนายโรห์ ที่หายตัวไป ที่แจ้งเรื่องกับทางสถานฑูตเกาหลีก่อนเดินทางเข้ามาแจ้งกับตำรวจสน.คลองตันว่าถูกคนร้ายใช้ไอดีโทรศัพท์ของตัวผู้ตายโทรไปข่มขู่ว่า นายโรห์มีการนำยาเสพติดไปโยนทิ้งลงน้ำ จนเกิดความเสียหาย จึงเรียกร้องเงินจำนวน 3 ล้านบาท ทาง สน.คลองตันจึงรายงาน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.สั่งการให้บก.สส.บช.น.และ สืบ บก.น.5 และสน.คลองตัน ทำการสืบสวน
จากการตรวจสอบนายโรห์ เดินทางเข้ามาประเทศไทยเมื่อ 30 เม.ย. 67 และมาพักที่โรงแรม ต่อมาเมื่อวันที่ 7 พ.ค. หลังรับแจ้งจึงเริ่มทำการสืบสวน พบว่า ช่วง 16.00 น.ของวันดังกล่าวนายโรห์ ได้เดินไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง และกลับเข้าที่พัก
ต่อมาเวลา 19.36 น. นายโรห์ เดินออกจากโรงแรม และขึ้นวิน จยย.รับจ้างไปยังสถานบันเทิง อาร์ซีเอ และพบว่ามีเพื่อนชาวเกาหลีเดินมาประกบตอนขาออกเวลาประมาณ ตีสองกว่าๆ โดยมีรถยนต์มาจอดรอรับ
จากการตรวจสอบเพิ่มเติม พบว่ามีชาย 2 คน เป็นคนขับ 1 และอีกคนนั่งข้างอยู่ภายในรถ กับอีก 1 คน ที่เดินประกบนายโรห์ รวมผู้ก่อเหตุ 3 คน ซึ่งรถคันดังกล่าวพบว่าเป็นรถเช่าโดยมีชื่อนายคิม เป็นผู้เช่า และเป็นคนขับ โดยใช้เส้นทางออกจากผับ RCA ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านร่มเกล้า กทม. จากการตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าวพบว่ามีนายลี เป็นผู้เช่า และพบว่ากล้องวงจรปิดถูกถอดออก ทำให้สามารถเก็บมาได้เพียงบางส่วน บ้านหลังนี้เริ่มเช่าเมื่อวันที่ 1 พ.ค. ถึงวันที่ 4 พ.ค. ซึ่งวันเกิดเหตุคือ วันที่ 2-3 พ.ค.
แนวทางการสืบสวนเชื่อว่าคนร้ายมีการวางแผนเพื่อเช่าบ้านหลังดังกล่าวไว้ก่อนจะก่อเหตุ และบ้านหลังดังกล่าวได้มีการดึงสายเราท์เตอร์กล้องออกทั้งหมด ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่มีภาพเหตุการณ์วันดังกล่าว
หลังจากนายคิมขับรถคันดังกล่าวเข้าไปภายในบ้าน แล้วนายคิมขับรถออกมาคอนโดแห่งหนึ่งที่ สุขุมวิท เพื่อเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า ก่อนขับกลับมาบ้านหลังเดิมอีกครั้ง จากนั้นมีการขับรถยนต์พานายโรห์ ออกไปซึ่งเชื่อว่าออกไปกันทั้งหมด 4 คน แล้วมุ่งหน้าไปคอนโดอีกแห่งหนึ่ง ที่ซอยสุขุมวิท 77 จากนั้นคนร้ายคนที่ 3 ชื่อนายลน ลงจากรถไปเอาสิ่งของบางอย่างที่คอนโดลงมาให้กับคนในรถ แต่นายลนไม่ได้ไปด้วยกัน
จากนั้นรถคันดังกล่าวขับไปที่ด่านลาดกระบังขาออกมุ่งหน้าเส้นพัทยา ทำให้เชื่อว่าคนในรถมีเพียง 3 คนเท่านั้น คือนายคิม และนายลี และนายโรห์ผู้ตาย จากนั้นเมื่อไล่กล้องวงจรปิดไปพบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้เข้าไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านมาบประชัน พัทยา ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีนายลี ผู้ก่อเหตุ เป็นคนเช่าไว้ตั้งแต่วันที่ 3 -10 พ.ค. เชื่อว่ามีการวางแผนว่าหากนำตัวมาแล้วจะไปพักยังบ้านหลังดังกล่าว
หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 10:00 น. ตัวนายคิมได้ขับรถออกไปยังร้านวัสดุแต่ยังไม่มีการซื้อของใดๆ กระทั่ง 10.45 น.นายคิมขับรถไปจอดหน้าบริษัทให้เช่ารถ และนายคิมลงมาทำสัญญาเช่ารถกระบะสีขาว และขับรถกระบะกลับไปยังบ้านพัก โดยรอบแรกเวลา 11.36 ของวันที่ 3 พ.ค.ยังไม่มีสิ่งของอยู่บริเวณท้ายรถกระบะ จากนั้นช่วง 15.00 น. นายคิมเป็นขับกระบะ มีนายลีนั่งมาด้วย และเวลา 15.17 น. มีการขับไปร้านค้าเพื่อซื้อถังสีดำขนาดใหญ่ และเชือกนำไปไว้ท้ายกระบะ มีผ้าคลุมก่อนกลับไปยังบ้านพักในหมู่บ้านที่เช่าไว้
ต่อมาวันที่ 4 พ.ค. คนร้ายได้ถอดกล้องวงจรปิดจากบ้านเช่าดังกล่าวออกทั้งหมด และเวลา 17.00 น. นายคิมกับนายลี ได้ขับรถเก๋ง และรถกระบะออกจากหมู่บ้าน และขับวนในพัทยา ราว 5 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 22.00 น. พบภาพวงจรปิดจากร้านค้าเห็นรถยนต์ 2 คันขับมาประกบกัน แถวอ่างเก็บน้ำมาบประชัน แล้ว 1 คนลงจากรถเก๋ง มาหารถกระบะ แล้วรถกระบะก็เข้าไปริมอ่างเก็บน้ำ ใช้เวลาประมาณ 25 นาที รถกระบะคันดังกล่าวก็ขับออกมา แล้วกลับไปยังหมู่บ้านมาบประชัน ซึ่งวงจรปิดหน้าหมู่บ้านเห็นชัดว่าขาไปพบท้ายรถกระบะมีผ้าคลุมสีดำ และถังดำอยู่ แต่ขากลับเข้าหมู่บ้าน เวลา 22.43 น. กลับไม่มีถังและผ้าคลุมท้ายรถแล้ว ทางฝ่ายสืบสวนจึงเชื่อว่า มีการนำถังไปโยนทิ้งบริเวณอ่างเก็บน้ำ จึงประสานนักประดาน้ำค้นหาจนเจอศพสภาพอยู่ในถังโบกปูนปิด ด้านกองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบแล้วจึงนำส่งสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ
ทั้งนี้เชื่อว่าคนร้ายที่ก่อเหตุมีจำนวน 3 ราย แล้วจากการตรวจสอบข้อมูลจากตม. พบว่าจำนวน 2 ราย ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วแต่อีก 1 ราย พบเพียงเดินทางเข้ามาประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังไม่พบมีการเดินทางออก
เบื้องต้นจึงมีการประสานกับทางสถานทูตเกาหลีและตำรวจเกาหลี ในการขอข้อมูลและมีการประชุมร่วมกันโดยทางเกาหลีพร้อมประสานความร่วมมือในการติดตามจับคนร้ายกลุ่มนี้ เนื่องจากมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างกัน และหากพบว่าผลตรวจดีเอ็นเอ เป็นของนายโรห์จริง ก็สามารถออกหมายจับผู้ต้องหา และประสานออกหมายแดง รวมถึงสาเหตุครั้งนี้ทางชุดสืบสวนได้มีการขอประวัติย้อนหลัง ของตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 3 ราย โดยทางตำรวจเกาหลีรับเรื่องไว้เพื่อหาสาเหตุครั้งนี้ต่อไป
มีรายงานว่าผู้ก่อเหตุทั้ง 3 รายคือ 1.นายคิม (Mr.KIM HYEONGGWON) หลบหนีไปที่ประเทศเมียนมาร์ และนายลี (Mr.LEE YOUNGJIN) หลบหนีไปประเทศกัมพูชา และ 3.นายลี โรอุน (Mr.LEE ROUN) เดินทางกลับประเทศเกาหลี