เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 8 พ.ค.67 ที่สน.ประชาชาชื่น นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส. ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.ณรงค์ชัย อุดม พนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ‘ปลอมแปลง หรือใช้เอกสารราชการปลอม’ กรณีโชว์ใบรับรองผลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการ หรือแบบ สด.43 ที่สน.ประชาชื่น ตามหมายเรียกครั้งที่ 2

โดยเดินทางมาพร้อมทนายความของพรรคก้าวไกล ซึ่งตนจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เพราะเอกสารของตนเองเป็นเอกสารจริง และมีต้นขั้วถูกต้องตามกฏหมาย ไม่ได้มีการปลอมแปลงตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด

นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ในเรื่องรายละเอียดขอ ให้เป็นไปตามสำนวนคดีเพราะได้เป็นคดีความแล้ว ตนก็ยืนยันว่าเอกสารสด. 43 ที่ตนนำแสดงนั้นเป็นของจริง และได้รับจากฐานรากราชการไม่ได้ปลอม เป็นเอกสารหลักฐานที่ใช้ยืนยันว่าตนได้ผ่านกระบวนการในอดีตมาแล้ว ซึ่งก็ไม่มีผลทางกฎหมายอะไรแล้ว ตนมั่นใจว่าจะสามารถต่อสู้ในคดีดังกล่าวได้ เพราะว่าเอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารทางราชการจริง

เมื่อถามว่าได้มีการสอบถามในเรื่องเอกสารดังกล่าวไปทางกองทัพบ้างหรือไม่ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ทางกรรมาธิการการทหารได้พูดคุยกับทางกองทัพแต่ยังไม่ได้รายละเอียดรายละเอียดอะไร ซึ่งเอกสารที่ทางกรรมาธิการได้ขอไปนั้นก็ยังไม่ได้รับจากกองทัพโดยเฉพาะต้นขั้วซึ่งทางกองทัพไม่ได้นำมาให้

เมื่อถามว่าการที่กองทัพมาแจ้งความแบบนี้เรามองว่าเป็นอย่างไร นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า เอกสารที่ตนนำมาแสดงเป็นหลักฐานที่ยืนยันว่าในอดีตตนได้ผ่านกระบวนการในอดีตมาแล้ว ตนคิดว่าหน่วยงานราชการไม่มีหน้าที่ในการตรวจสอบเอกสารราชการที่ปรากฏตามสื่อออนไลน์เพราะไม่อย่างนั้นก็จะต้องตรวจทุกคนทุกคน ตนมองว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นเอกสารที่หมดอายุความไปแล้วและไม่มีผลทางกฎหมายอะไรแล้วการกระทำแบบนี้ตนมองว่าเป็นการดิสเครดิตในการทำหน้าที่ของตน

เมื่อถามว่า ได้มีการตรวจสอบลายเซ็นหรือไม่ในชั้นกรรมาธิการ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า มันไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะต้องไปตรวจสอบ ว่าใครเป็นคนเซ็นและไม่ใช่หน้าที่ของตนในการทำเอกสารฉบับนี้ขึ้นมา

เมื่อถามว่ามีรายงานจากกองทัพว่าไม่มีต้นขั้วเอกส่รสด.43 ของนายจิรัฏฐ์ เอง นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า “ เค้าบอกว่าไม่มีต้นขั้วของ “นวมินทร์” ไม่ได้บอกว่าไม่มีต้นขั้วของนายจิรัฏฐ์”

เมื่อถามว่าประชาชนที่เกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกับนายจิรัฏฐ์ ได้มีการรวบรวมและตรวจสอบ นายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ก็ต้องถามทางกองทัพว่าได้มีการตรวจสอบทุกคนที่มีการโพสต์ในสื่อออนไลน์หรือไม่ว่าเป็นเอกสารจริงหรือปลอมตนคงไม่เข้าไปก้าวก่ายตรงนี้

“ เอกสารดังกล่าวเป็นเอกสารเมื่อ 10 ปีที่แล้วผมไม่รู้จะปลอมแปลงไปทำไมมันไม่ได้ประโยชน์อะไร การออกมาทำแบบนี้มันก็ไม่มีเรื่องอะไรเพียงแต่ทำให้งานของผมที่ทำอยู่มันช้าลง ผมมองว่าเรื่องนี้เป็นการดิสเครดิต มันไม่ใช่แค่เรื่องนี้มันยังมีอีกหลายเรื่อง ที่จะขัดขวางการทำงานของตนมาตลอดอยู่แล้ว”นายจิรัฏฐ์ กล่าว