แม้จะมีการเข้มงวดกวดขันเรื่องกากสารเคมี แต่ที่ฉะเชิงเทรากลับพบรถบรรทุกต้องสงสัยว่า อาจจะทำการลักลอบทิ้งสารเคมีและกากขยะอุตสาหกรรม เข้ามาทิ้งในพื้นที่ ส.ป.ก. ของอำเภอสนามชัยเขต
ด้านชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้รับผลกระทบจากกลิ่นรุนแรง แสบจมูก แสบผิวหนัง จึงเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและกำจัดกากดังกล่าว คาดใช้เวลา 15 วัน ในการตรวจสอบสารเคมีและกากขยะที่ถูกทิ้ง ทางจังหวัดเคยประสบปัญหาลักลอบทิ้งสารเคมีมาก่อน และได้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว
พบรถบรรทุกต้องสงสัยลักลอบทิ้งนำสารเคมี จ.ฉะเชิงเทรา
ชาวบ้านในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า พบเห็นรถบรรทุกเข้ามาในพื้นที่ช่วงกลางดึกเป็นประจำ แต่ไม่ทราบว่าเข้ามาทำอะไร แต่บางครั้งได้กลิ่นเหม็นเป็นระยะ เมื่อลงพื้นที่ตรวจสอบพบ ถุงบิ๊กแบ็คขนาดใหญ่กว่า 100 ถุง ภายในบรรจุวัตถุงผงสีขาวไม่ทราบชนิด และเศษสายไฟจำนวนมาก
ซึ่งถูกลักลอบนำมาทิ้งไว้ บริเวณท้ายสวนมันสำปะหลัง ตำบลท่ากระดาน อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งหมดมีสภาพคล้ายถูกฝังกลบ ตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะถูกฝังอยู่ใต้ดินอีกหรือไม่ เนื่องจากถุงบิ๊กแบ๊กที่พบลักษณะเหมือนเพิ่งถูกถมใหม่
ชาวบ้านในพื้นที่ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมาเห็นมีระกระบะขับนำรถบรรทุกพ่วง ไปยังจุดดังกล่าว ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงดึก และมีการทิ้งของเป็นถุงมีขาวลงมีจากรถ ก่อนที่จะมีการนำดินมาไถกลบ โดยไม่ได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่แต่อย่างใด
เจ้าอาวาสวัดเขาหินซ้อน ตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง พร้อมเรียกร้องหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา เพราะจุดที่พบการลักลอบทิ้งสารเคมีต้องสงสัยนี้ อยู่ติดกับลำรางน้ำสาธารณะ ก่อนจะไหลลงคลองระบม แหล่งน้ำดิบสำคัญของชุมชน จี้แก้ปัญหาสารเคมีถูกลักลอบทิ้ง หวั่นรั่วไหลลงลำน้ำสาธารณะ
คาด 15 วันรู้ผลตรวจสารเคมี-กากขยะอุตฯ ถูกทิ้ง จ.ฉะเชิงเทรา
นายก อบต.ท่ากระดาน บอกว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการลักลอบทิ้งกากสารเคมี จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ ภายในที่ดินแปลงหนึ่ง อยู่ระหว่างแนวเขต ตำบลเขาหินซ้อน อำเภอพนมสารคาม พบถุงบิ๊กแบ๊กบรรจุขยะอุตสาหกรรมจำนวนมาก ทั้งที่ถูกฝังกลบ และเตรียมจะฝังกลบ ส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้เก็บตัวอย่างน้ำและกากสารเคมีไปตรวจสอบแล้ว คาดจะรู้ผลอีก 15 วัน ขณะนี้ หวั่นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม
เผยปี 2564 เคยมีการลักลอบทิ้งสารเคมีมาแล้วถูกดำเนินคดี
สำหรับสารเคมีที่พบ แม้จะยังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด แต่มีกลิ่นเหม็นแสบจมูกและระคายเคืองผิวหนัง เบื้องต้น ที่ดินดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นที่ดิน ส.ป.ก. มีผู้ครอบครองเป็นชายคนหนึ่ง ชาวชลบุรี แต่เสียชีวิตไปแล้ว และน่าจะขายสิทธิให้ผู้ประกอบการคนหนึ่ง ซึ่งมีบริษัทรับกำจัดของเสีย ชื่อย่อว่า เสี่ย อ. ปี 2564 เคยมีการนำสารเคมีมาทิ้งแล้วครั้งหนึ้ง โดยไม่ถูกวิธี และถูกดำเนินคดี ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุก ขณะนี้ยังหลบหนีการจับกุม และการนำสารเคมีมาทิ้งใหม่ ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้กระทำผิดกลุ่มเดิมหรือไม่