วันนี้ (วันอังคารที่ 30 เมษายน 2567) พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พันตำรวจโท พเยาว์ ทองเสน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และร้อยตำรวจเอก เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ นำกำลังเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ สนธิกำลังร่วมกับกรมการปกครอง และสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จำนวนกว่า 200 นาย นำหมายศาลเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ จำนวน 15 จุด พร้อมกัน ในพื้นที่ภาคกลางประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี จำนวน 5 จุด จังหวัดลพบุรี จำนวน 8 จุด และจังหวัดนครสวรรค์ จำนวน 2 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ค้นหาพยานหลักฐาน ยึดและอายัดทรัพย์สินจำนวนมาก
กรณีดังกล่าวเป็นการปฏิบัติการตรวจค้นในคดีพิเศษที่ 76/2566 กรณี กลุ่มผู้กระทำผิดมีการเข้าถึงบัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ของตน ผ่านแอพพลิเคชั่นโมบายแบงก์กิ้ง และ/หรือ อินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง เพื่อกระทำความผิดในลักษณะเป็นการโฆษณา หรือ ชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันโดยผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์อันทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงการพนันออนไลน์ได้ พบพฤติการณ์ ร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันเพื่อเอาทรัพย์สินกัน จัดให้มีการเล่นการพนันทางออนไลน์หรือทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเว็บไซต์ www.sandvip.com www.sand168.com www.gts89.com และwww.gtb89.com โดยมิชอบด้วยกฎหมาย เมื่อได้เงินจากประชาชนทั่วไปที่เข้าไปเล่นพนันแล้ว กลุ่มขบวนการดังกล่าวร่วมกันนำเงินที่ได้ออกมาจากระบบวงจรด้วยการโอนไปยังบัญชีต่าง ๆ ที่เป็นลูกน้องหรือคนสนิท และบัญชีว่าจ้างให้เปิดหรือซื้อบัญชี (บัญชีม้า) จากนั้นมีการโอนเงินไปบัญชีธนาคารอื่นอีกหลายทอด เพื่อหลบหลีกการตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ หรือ ซุกซ่อนรูปแบบเส้นทางการเงิน แล้วนำเงินออกจากระบบด้วยการกดเงินสดด้วยบัตรกดเงินสด ATM โดยบัญชีธนาคารและด้วยตัวของผู้ต้องหาร่วมในคดีนี้เอง มีบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของ/นายทุน บุคคลซึ่งทำหน้าที่ดูแลระบบ/ดูแลสมาชิกของเว็บไซต์ (ทีม Admin) บุคคลซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการเงิน/เจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ รับเงินในเครือข่ายของเว็บไซต์พนัน www.sandvip.com (เปลี่ยนชื่อเป็น www.gtb89.com) www.sand168.com (เปลี่ยนชื่อเป็น www.gts89.com) และเว็บไซต์อื่น ๆ ในเครือข่าย ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลดังกล่าวมีการร่วมกันดำเนินการกิจการผิดกฎหมายนี้ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายมาเป็นเวลาหลายปี
จากการสืบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ พบว่า เว็บพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าวมีเว็บไซต์ในเครือ
รวม 6 เว็บไซต์ และเว็บไซต์อื่น ๆ อีกจำนวนหลายเว็บไซต์มีทุนหมุนเวียนกว่า 2,000,000,000 บาท (สองพันล้านบาท) เป็นขบวนการขนาดใหญ่ มีจำนวนสมาชิกผู้เล่นพนัน มากกว่า 100,000 ราย มีทีมงานแอดมินหลายสิบคน
และมีการใช้บัญชีม้าในการรับโอนเงินหลายสิบบัญชี รวมถึงใช้บัญชีของผู้ตายในการรับโอนเงินด้วย ทั้งนี้เนื่องจากเว็บพนันออนไลน์นี้มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงไปยังอีกหลายบัญชี โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเตรียมการขยายผลดำเนินคดีฟอกเงินผู้เกี่ยวข้อง และผู้เล่นพนันต่อไป
พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการในวันนี้เป็นการสนธิกำลังร่วมกับกรมการปกครองและสาบันนิติวิทยาศาสตร์ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นรวมทั้งจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 38 คน ซึ่งเป็น กลุ่มนายทุน 9 ราย และกลุ่มลูกน้องคนสนิทที่มีหน้าที่สำคัญในการดำเนินการเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่ และฟอกเงิน อีก 6 ราย เป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และความผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือ ทำอุบายล่อ
ช่วยประกาศโฆษณา หรือ ชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานและความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน
ในปฏิบัติการครั้งนี้ สามารถจับกุมกลุ่มนายทุนเว็บพนันออนไลน์รายใหญ่และฟอกเงิน และผู้เกี่ยวข้องสำคัญ
เพื่อตัดวงจร และท่อน้ำเลี้ยงขององค์กรอาชญากรรมขนาดใหญ่ ได้ 13 ราย จาก 38 ราย ส่วนที่ผู้ต้องหาที่เหลือ กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ในส่วนของทรัพย์สินที่ดำเนินการตรวจค้น
และทำการยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดได้แก่ รถยนต์ 17 คัน (เฟอร์รารี่ 2 คัน รถบ้าน 1 คัน) รถจักรยานยนต์ 5 คัน กระเป๋าแบรนด์เนม ประมาณ 25 ใบ เงินสด และเงินสกุลต่างประเทศ ประมาณ 3 ล้านบาท ทองคำรูปพรรณน้ำหนักรวมกันกว่า 1,000 บาท พระเครื่อง เครื่องประดับ นาฬิกา (ปาเตะ/ แฟรงมิลเลอ /โรเล็กซ์) ตู้นิรภัย อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร พร้อมกันนี้ ได้ทำการอายัดบัญชีเงินฝากธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ทรูมันนี่ อาวุธปืนและเครื่องกระสุน รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า หลายสิบล้านบาท
ทั้งนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะเร่งทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ที่เกี่ยวข้องต่อไป และดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์สินของกลุ่มขบวนการนี้อย่างเด็ดขาด โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะนำทรัพย์สินส่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ป.ป.ง.) เพื่อให้ทรัพย์สินตกเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมายต่อไปและหากตรวจสอบพบว่าผู้กระทำความผิดไม่ดำเนินการเสียภาษีตามกฎหมายจะส่งเรื่องให้กรมสรรพากรดำเนินการทางภาษี ต่อไป