จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พบพฤติกรรมเสียหาย จากนายสมบัติ อดีตอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องร้องเรียนประจำสำนักการไต่สวนทุจริตภาครัฐ พร้อมด้วยบุคลากรสำนักงาน ป.ป.ช. อีกสองคน ได้แก่ นายจัตุรงค์ เจ้าหน้าที่ไต่สวน และนางสาวอารยา เจ้าหน้าที่สำนักตรวจสอบทรัพย์สิน โดยมีการกระทำผิดในการช่วยเหลือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการตกแต่งหลักฐานบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน เพื่อยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช.
จากการสอบสวนพบว่า นายสมบัติสั่งการให้นายจัตุรงค์ นางสาวอารยา และบุคลากรสำนักงาน ป.ป.ช. คนอื่นๆ ดำเนินการช่วยเหลือในการจัดเตรียมเอกสารและร่างหนังสือชี้แจงสำหรับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่จะต้องยื่นต่อสำนักงาน ป.ป.ช. หลายครั้ง รวมถึงให้คำแนะนำและเตรียมการชี้แจงก่อนที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะต้องมาชี้แจงต่อสำนักงาน ป.ป.ช. เป็นเวลายาวนานหลายปี
นอกจากนี้ พนักงานสอบสวนยังพบว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ เขียนบัตรสนเท่ห์ในคอมพิวเตอร์ของตนเอง จากนั้นส่งให้นายจัตุรงค์นำไปแจกจ่ายในสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อโจมตีใส่ร้ายป้ายสีกรรมการ ป.ป.ช. บางคน
โดยเฉพาะนายสุชาติ ที่เป็นเสียงข้างน้อยในการลงมติในวาระที่เกี่ยวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเวลาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2564-2566 เนื่องจากนายสุชาติมีความเห็นให้ส่งสำนวนคดีฟอกเงินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จากเว็บพนันมิ่งมินนี่ให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งนายจัตุรงค์ได้ดำเนินการตามที่นายสมบัติสั่งการ
ทำให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่าบัตรสนเท่ห์ดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมของนายสมบัติและ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เพื่อหวังผลหลายประการในสำนักงาน ป.ป.ช. เช่น การข่มขู่กรรมการ ป.ป.ช. คนอื่นๆ และบุคลากรในสำนักงานไม่ให้ดำเนินการในทางตรงกันข้ามกับแนวทางที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ต้องการ
นอกจากนี้ยังพบว่ากรรมการ ป.ป.ช. หลายคนมีความสนิทสนมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ด้วย รวมทั้งในช่วงเทศกาลปีใหม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เคยมาพบนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ที่สำนักงานด้วย
