วันที่ 14 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 13.40 น. ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าช่วงเย็นวันนี้ จะไปรับประทานอาหารเย็นที่ร้านเลอค็อกดอร์ ซึ่งเป็นร้านเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยที่ตนเป็นนายกฯ ซึ่งตอนนี้ก็ยังอยู่
ส่วนที่จะมีรัฐมนตรีหลายท่านมาพบด้วยนั้น มีนัยยะทางการเมืองอะไรหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่หรอก มันเป็นประเพณี โดยเฉพาะตนเป็นคนเชียงใหม่ ประเพณีสงกรานต์เขาก็มารดน้ำดำหัวเป็นเรื่องปกติ ตนอายุ 75 แล้ว พวกที่อยู่ทั้งหลายตอนนี้อายุน้อยกว่าตนทั้งนั้น ที่อายุเยอะกว่าเห็นจะมีแค่ท่านสมศักดิ์ พงษ์พานิช ส่วนที่หลายคนมองว่าหากใครไม่มาเช็คชื่อ ก็คงไม่ไม่เป็นแบบนั้น ตนเป็นคนไม่จุกจิก และไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับท่านนายกฯ ซึ่งนายกฯจะเป็นคนตัดสินใจเองว่าใครจะอยู่ใครจะไป
เมื่อถามว่า จะพูดอย่างไรให้รัฐมนตรีที่เข้าใจผิด ว่าจะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องวิ่งเข้าหาตนนายทักษิณ กล่าวว่า “Nothing is permanent” ไม่มีอะไรเป็นสรณะ เพราะมันก็มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป มีตำแหน่งแล้วต้องหมดตำแหน่งก็เป็นเรื่องธรรมดาอย่าคิดอะไรมาก ระหว่างที่มีตำแหน่งอยู่ก็ทำให้ดีที่สุด สร้างชื่อเสียงให้กับบ้านเมืองไป
เมื่อถามว่า มีการมองว่านายทักษิณกลับมาจะเป็นศูนย์กลางอำนาจ นายทักษิณ กล่าวว่า เป็นศูนย์กลางของคนแก่ที่พวกรุ่นน้องๆอยากมาปรึกษาหารือ ตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว เผลอแปบเดียวกลายเป็นคนแก่สุดแล้ว ถือว่าวันนี้เริ่มเข้าวัยเบญจเพส อีก 25 ปี ก็ครบ 100
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์จะเข้าร่วมรัฐบาล และมีการโยงชื่อของนายทักษิณว่าเป็นผู้คุยดีลนี้ นายทักษิณ ย้อนถามว่า “เหรอครับ ก็รู้จักกันทั้งนั้น ก็คุยการเมืองกัน หลายคนอยากทำงานให้บ้านเมืองแต่บางครั้งทุกอย่างก็มีจำกัด เก้าอี้รัฐมนตรีก็มี 36 รวมทั้งนายกฯด้วย ก็ต้องมีจำกัด ส่วนมีความเป็นไปได้หรือไม่ ตนไม่ทราบ ขอให้ไปถามนายกฯ ซึ่งการพบกับคนของพรรคประชาธิปัตย์ก็กินกาแฟกันธรรมดา อย่างนายเดชอิศม์ ขาวทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ก็เคยเป็นผู้สมัครสส.พรรคไทยรักไทย สมัยที่ตนเป็นหัวหน้าพรรคใหม่ๆ ก็เลยรู้จักกัน
เมื่อถามย้ำว่า แล้วที่คุยนั้นคุยกับหัวหน้าพรรคหรือเลขาธิการพรรคหรือใคร นายทักษิณ ระบุว่า ไม่ ตนก็คุยกับคนรู้จัก