จากกรณีชายหนุ่มถูกปรับ 1,000 บาท ข้อหาดื่มสุราในที่สาธารณะ ขณะนั่งดื่มแอลกอฮอล์อยู่ท้ายรถกระบะที่จอดอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ โดยทางตำรวจได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เจ้าหน้าที่ได้เขียนใบสั่งปรับผิดพลาด เนื่องจากควรเป็นข้อหาดื่มสุราบนรถในที่สาธารณะ เพราะจอดรถในบริเวณจอดรถของร้าน ไม่ใช่บนถนน
จากนั้น เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ได้กล่าวถึงกฎหมายห้ามดื่มในที่สาธารณะว่า เดิมห้ามดื่มที่ปั๊มน้ำมันด้วยเหตุผลที่คำนึงถึงความปลอดภัย ต่อมาได้ขยายห้ามไปยังพื้นที่สาธารณะต่างๆ เช่น ทางเดิน , ไหล่ทาง หรือลานสำหรับจราจร รวมถึงการดื่มบนรถไม่ว่าจะเป็นผู้ขับหรือผู้โดยสาร
สำหรับการจอดรถและดื่มหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งเป็นพื้นที่เอกชน รวมถึงการซื้อเครื่องดื่มออกมาดื่มบริเวณหน้าร้านทันที จะถือเป็นการดื่มในพื้นที่สาธารณะหรือไม่นั้น นายธีระ ระบุว่ากฎหมายของไทยไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจน แตกต่างจากบางประเทศเช่นสิงคโปร์ที่ถือว่า “พื้นที่ใช้ร่วมกันทั้งหมด เป็นสาธารณะ และห้ามดื่มทุกแห่ง”
และหากจะให้มีความชัดเจนในการควบคุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หน้าร้านสะดวกซื้อ ก็จำเป็นต้องมีการแก้ไขกฎหมายให้ชัดเจนขึ้น เกี่ยวกับใบอนุญาตจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภท 2 โดยแยกประเภทอย่างชัดเจนระหว่างการขายปลีกเพื่อนำกลับไปบริโภคที่อื่น และการขายพร้อมนั่งดื่มในร้าน เพื่อห้ามไม่ให้ผู้บริโภคดื่มหน้าร้านสะดวกซื้อหรือบริเวณโดยรอบได้อย่างชัดเจน
สำหรับโทษ และการดื่มแอลกอฮอล์ในสถานที่ห้ามดื่ม มีดังนี้
- วัด หรือ สถานที่ประกอบศาสนกิจ
- สถานที่บริการสาธารณสุขของรัฐ
- สถานที่ราชการ ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล , สโมสร
- สถานศึกษา ยกเว้นบริเวณที่จัดไว้เป็นที่พักส่วนบุคคล , สโมสร
- ปั๊มน้ำมัน
- สวนสาธารณะของทางราชการ
- สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศ
หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษตามมาตรา 42 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ้างอิงจาก มาตรา 31 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
อ่าน พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 เพิ่มเติม