วันที่ 2 เมษายน 2567 เมื่อเวลา 16.45 น. มีรายงานว่า พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมายื่นคำร้องต่อศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขอออกหมายจับ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ในความผิดฐาน สมคบกันกระทำความผิด ฐานฟอกเงิน และเป็นเจ้าพนักงานร่วมกันฟอกเงิน ตามที่สมคบกัน ตามพรบป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 5,9,10 และศาลอาญาพิพากษา ให้ออกหมายจับ โดยมีผลในทันที หากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็สามารถแสดงหมายจับ และจับกุมตัวได้ทันที
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ภายหลังมีการยื่นขอออกหมายจับในช่วงเช้าทาง พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ได้ยื่นหนังสือถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา เรื่องขอชี้เเจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหากมีการยื่นคำร้องขอออกหมายจับ แต่ศาลพิเคราะห์เห็นแล้วว่าพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนมีเพียงพอที่จะออกหมายจับประกอบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีท่าทีหลบเลี่ยงหมายเรียกของพนักงานสอบสวนถึง 3 ครั้ง จึงเป็นสาเหตุในการออกหมายจับครั้งนี้
ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ประธานศาลฎีกา ได้เดินทางมาราชการ ซึ่งมีรายงานว่า ได้เข้าไปพบกับอธิบดีผู้พิพากษา เพื่อหารือถึงแนวทางการพิจารณาออกหมายจับ จากนั้นองคณะผู้พิพากษา ได้พิเคาระห์ จากพยานหลักฐาน พิจารณาให้ออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เนื่องจากเห็นว่า คดีมีพยานหลักฐานเชื่อได้ว่าเป็นความผิด และมีพฤติการณ์จงใจหลบเลี่ยงหมายเรียก ที่พนักงานสอบสวนออกไปถึง 3 ครั้ง
ถึงแม้ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ อ้างว่าไม่ได้รับหมายเรียก ชุดสืบสวนได้ชี้แจงต่อศาลไปว่า หมายเรียกทั้ง 3 ครั้งที่ปรากฎต่อสื่อมวลชนหลายสำนัก และฝ่ายผู้ต้องหา พยายามบอกว่าไม่รู้ไม่เห็น และให้ทนายเป็นผู้ตอบคำถามทั้งที่ทราบกับสื่อว่ามีการออกหมายเรียก โดยขั้นตอนของตำรวจหลังจากนี้ หากเจอตัวพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ก็สามารถจับกุมได้ทันที ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ด้าน พ.ต.ท. สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการสอบสวน สน.สายไหม ชุดทำคดีเว็บพนันฯ เปิดเผยว่า ศาลอนุมัติออกหมายจับในคดีฟอกเงินแล้ว ซึ่งมีผลบังคับใช้ทันที ส่วนเหตุผลที่ศาลอนุมัตินั้น ให้รอฟังคำชี้แจงจากผู้บังคับบัญชา ส่วนเหตุผลที่ศาลไม่รับฟังคำร้องคัดค้านหมายจับของ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ที่มายื่นก่อนหน้านี้ ทางผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ให้เหตุผลทั้งหมด
พ.ต.ท. สราวุธ ยืนยันว่า หมายจับออกเป็นที่เรียบร้อย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ จะเป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย